1. ความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจะทำงานโดยการต่อสู้กับแบคทีเรียและป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ประกอบไปด้วยสารลดกลิ่นกายที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดจำนวนแบคทีเรียบริเวณรักแร้
ส่วนผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อประกอบด้วยสารลดเหงื่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกลืออลูมิเนียมที่ช่วยลดเหงื่อได้ เกลือชนิดนี้จะก่อตัวเป็นเจลอุดต่อมเหงื่อ แต่จะถูกกำจัดออกโดยกลไกกระบวนการสร้างผิวใหม่ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อยังมีสารดับกลิ่นกาย และยับยั้งการเจริญเติบโตแบคทีเรียเนื่องจากมีค่า pH ที่ต่ำและลดความชุ่มชื้นบริเวณรักแร้
2. ทำไมผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจึงมีส่วนผสมของเกลืออลูมิเนียม(ACH)?
นอกจากกลิ่นตัวแล้ว ผู้คนต่างต้องการลดเหงื่อเพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อไหลเลอะเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่มีประสิทธิภาพมักมีส่วนผสมของเกลืออลูมิเนียม (หรืออลูมิเนียม คลอโรไฮเดรต) เกลือเหล่านี้จะเป็นเจลอุดบริเวณด้านบนของรูขุมขนชั่วคราว ทำให้เหงื่อออกน้อยลง การเสียดสีและการเกิดใหม่ของผิวจะทำให้เจลหลุดออกไป
เกลืออลูมิเนียมได้มีการนำมาใช้อย่างปลอดภัยกว่าศตวรรษ ส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องสำอางได้รับการควบคุมโดยศูนย์บัญชาการเครื่องสำอางแห่งยุโรป ต้องมีการควบคุมความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีการวินิจฉัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งในยุโรปและระดับชาติ
3. ปัจจัยที่ทำให้เหงื่อออกมีอะไรบ้าง?
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในร่างกายเกิดจากการทำกิจกรรมต่างๆ อาการเหงื่อออกนี้เกิดขึ้นเพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกายโดยการขับความร้อน เหงื่อจะถูกขับออกมาโดยต่อมเอ็กไครน์ และจะออกมาในรูปแบบน้ำและเกลือ
อาการเหงื่อออกเกิดจากความเครียดทางกายและจิตใจ ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณรักแร้ ฝ่าเท้า ฝ่ามือ และหน้าผาก เหงื่อไม่ได้ผลิตจากต่อมเอ็กไครน์เท่านั้น แต่ยังมาจากต่อมอโพไครน์ ซึ่งจะมีทั้งไขมันและโปรตีน เผาผลาญโดยแบคทีเรียและก่อให้เกิดกลิ่นตัว เหงื่อที่เกิดจากความเครียดมีวิวัฒนาการจากการต่อสู้ และมีบทบาทสำคัญในการสื่อสาร หากต้องการลดเหงื่อจากความเครียด เราจึงออกแบบสเปรย์ลดความเครียดจาก NIVEA และโรลออนสำหรับผู้ชายและผู้หญิง
4. การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจะเป็นอันตรายหรือไม่?
การเปลี่ยนอุณหภูมิของร่างกายไม่ได้เกิดจากผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ รักแร้จะใช้ปริมาณ 200 cm2 ซึ่งเป็นเพียง 1% ของผิวทั่วร่างกาย ดังนั้นบริเวณนี้เล็กเกินไปที่จะมีบทบาทในการเปลี่ยนอุณหภูมิ การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อผ่านการรับรองว่าปลอดภัยในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
5. ทำไมถึงได้กลิ่น?
กลิ่นเหงื่อที่สดชื่นจะออกมาเป็นน้ำที่ไม่มีกลิ่น เฉพาะแบคทีเรียที่ผ่านการเผาผลาญใต้รักแร้เท่านั้นที่จะสร้างเหงื่อ เนื่องจากโปรตีนและไขมัน กลิ่นจึงก่อตัวขึ้น รักแร้เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียเนื่องจากมีความชื้นจากค่า pH ที่สูงขึ้นและสารอาหารที่หลากหลาย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหงื่อออกบริเวณนั้น
6. ทำไมต้องเขย่าผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อก่อนใช้?
นีเวีย สเปรย์ระงับเหงื่อ (NIVEA Dry Spray) ต้องเขย่าก่อนใช้เพื่อให้เกลืออลูมิเนียมกระจายทั่วขวด ไม่เช่นนั้นสเปรย์จะออกมาเป็นโฟม และก่อให้เกิดการอุดตัน หรือรอยสีขาวเปื้อนเสื้อได้ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไร้แอลกอฮอล์จากนีเวียไม่จำเป็นต้องเขย่าก่อนใช้ (นีเวีย เฟรช เพียว, นีเวีย เนชัลรอล, นีเวีย เฟรช ฟลาวเวอร์ และ นีเวีย เฟรช คอมฟอร์ท)
7. ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก่อให้เกิดรอยสีเหลือบนเสื้อผ้าหรือไม่?
รอยเหลืองบนเสื้อผ้าเกิดจากการผสมกันของไขมัน ผงซักฟอก และสารต้านอาการเหงื่อออก จากประสบการณ์ มีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้อง จำนวนครั้งในการใช้ ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ จำนวนครั้งที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ความหนาแน่นในการซักผ้า ลักษณะเหงื่อของแต่ละคน ปริมาณน้ำแร่หรือแร่ธาตุในน้ำ และโครงสร้างของเสื้อผ้า วิธีการลดรอยเหลืองที่ได้ผลที่สุดคือใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายตอนแห้งก่อนสวมใส่เสื้อผ้า
อย่างไรก็ตาม รอยเหลืองบนผ้าอาจไม่ได้เกิดจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ อาจเกิดจากไขมันผสมกับสิ่งสกปรกต่างๆ แล้วซักออกยาก บางกรณี รอยเปื้อนอาจเกิดจากสีของผ้าตก สำหรับใครที่อยากลดรอยเหลืองบนเสื้อผ้า แนะนำให้ใช้ นีเวีย อินวิซิเบิ้ล ฟอร์ แบล็ค แอนด์ ไบรท์
8. วิธีกำจัดรอยเหลืองออกจากเสื้อผ้า
รอยเหลืองไม่สามารถแก้ไขได้โดยการซักผ้าบ่อยๆ บางครั้งการซักผ้าอาจยิ่งทำให้รอยเปื้อนฝังลึกยิ่งขึ้น
หากเกิดรอยเปื้อน ล้างผ้าด้วยน้ำเย็นก่อนที่จะนำลงไปซัก บางครั้งการแช่ผ้าไว้ด้วยกรดซิตริก 5% ใน 24 ชั่วโมงช่วยให้รอยออกได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการล้างผ้าด้วยน้ำสะอาดก่อนซักในอุณหภูมิ 30 องศา แต่ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าวิธีนี้จะได้ผล ระวังผ้ายืดหรือผ้าสีที่มาพร้อมกับกระดุมไข่มุก เพราะกรดอาจทำให้กระดุมเสียหายได้ กรุณาทดลองสินค้าก่อนที่จะมีการใช้จริง
คำเตือน : ควรระมัดระวังการใช้กรดซิตริกเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแพ้ อาจมีการระคายเคืองบริเวณตา ระบบการย่อยอาหารและระบบการหายใจ การสัมผัสผิวอาจทำให้อักเสบและพุพอง ส่วนความเสียหายทางเนื้อเยื่อขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สัมผัส เราจึงแนะนำให้ใส่ถุงมือเมื่อสัมผัสกรดซิตริกและระวังเวลาหายใจ
9. การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นสาเหตุให้มีสิ่งตกค้างบนเนื้อผ้าหรือไม่?
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายบางชนิดที่เน้นระงับเหงื่อและประกอบด้วยเกลืออลูมิเนียม (ACH) สามารถทิ้งสิ่งตกค้างบนเสื้อผ้าเมื่อใช้ไม่ถูกวิธี เมื่อใช้สเปรย์ระงับเหงื่อเช่น นีเวีย ดีโอโดแรนท์ ดราย ต้องเขย่าขวดให้ดีเพื่อมั่นใจว่าเกลืออลูมเนียมกระจายทั่วขวดและไม่กระจุกบนผิวหลังจากใช้ วิธีการหลีกเลี่ยงสิ่งตกค้างคือ จะต้องปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อทุกอย่างแห้งบนผิวก่อนที่จะใส่เสื้อผ้า โดยทั่วไปแล้วสิ่งตกค้างบนเสื้อผ้าเอาออกได้โดยการแปรง หากใครอยากหลีกหลี่ยงรอยเหล่านั้น แนะนำ นีเวีย อินวิซิเบิ้ล ฟอร์ แบล็ค แอนด์ ไวท์
10. ผลิตภัณฑ์ปลอดแอลกอฮอล์หรือไม่?
ในเชิงเคมี “แอลกอฮอล์” หมายถึงส่วนประกอบที่หลากหลาย มีอะตอมในโมเลกุลคล้ายกัน ส่วนความหมายที่ไม่เป็นทางการ “แอลกอฮอล์” คือสารเอธานอลที่สามารถดื่มได้ในรูปแบบแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ชนิดใดที่ระบุว่าไร้แอลกอฮอล์ แสดงว่าไม่มีเอธานอล ดังนั้นคำว่าปราศจากแอลกอฮอล์อาจมีในผลิตภัณฑ์ในรายการ (INCI) เช่นสเตียริลแอลกอฮอล์
11. มีบาดแผลหรือรักแร้ระคายเคืองใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อได้หรือไม่ ?
หลังจากโกนรักแร้ บริเวณผิวชั้นนอกสุดอาจถูกทำร้าย แต่ผิวและชั้นป้องกันยังไม่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม รอยบาดเจ็บเล็กๆ ยังเกิดขึ้นได้ กรณีนี้ ไม่ควรใช้ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่บรรจุด้วยขวดอลูมิเนียม แม้ว่ารักแร้จะระคายเคืองหรือบาดเจ็บด้วยเหตุผลอื่นๆ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ
12. การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นสาเหตุเกิดรอยเปื้อนสีบนผ้าหรือไม่?
รอยเปื้อนสีบนเสื้อผ้ามีลักษณะคล้ายกับรอยเปื้อนสีเหลืองที่กล่าวข้างต้น ส่วนรอยเปื้อนสีคล้ายคอนกรีตอาจเกิดจากร่องรอยของโลหะแท็บน้ำ (ทองแดง แมงกานีส เหล็ก) ในบางกรณีสีอาจเกิดจากสารซักผ้าขาว ส่วนสีที่ที่ปรากฏบนผ้าสีอ่อนอาจเกิดจากสีตก กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อเสื้อผ้าไม่ป้องกันเหงื่อ
