8. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้ 1.5 - 2 ลิตร ต่อวัน
น้ำเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานของผิวเป็นไปได้อย่างปกติ โดยเฉพาะผิวชั้นนอก การดื่มน้ำจึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยคงความสมดุลให้ชั้นผิวได้ดีอีกด้วย หากดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอ ยังสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ช่วยให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าจางลงได้
9. การรับประทานอาหารเสริม
การบำรุงให้ผิวสวยนั้นต้องอาศัยการบำรุงจากภายในด้วย การรับประทานอาหารเสริมบํารุงผิวจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่นา่สนใจ เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสแล้ว อาหารเสริมหลายยี่ห้อยังมีส่วนผสมของวิตามินหรือแร่ธาตุอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ช่วยดูแลสุขภาพโดยรวมได้อีกด้วย เช่น Vitamin C, Vitamin E, Vitamin B3, Grape Seed, หรือ Collagen โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีความปลอดภัย ผ่านมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือ GMP (Good Manufacturing Practice)
10. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพักผ่อนและการรับประทานอาหาร
การนอนในท่านอนที่เหมาะสม อย่างการนอนในท่านอนหงาย จะช่วยทำให้ไม่เกิดการกดทับบนใบหน้า เพราะการนอนคว่ำหน้า หรือการนอนตะแคงเป็นเวลานาน ๆ ผิวหน้าของคุณจะได้รับแรงกดทับ ซึ่งมีผลต่อการเกิดริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม ฉะนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ และปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักใบเขียว ผลไม้ ซึ่งอาหารเหล่านี้จะอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงเกลือแร่ที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวสดใสและคงความชุ่มชื้น
การแก้ปัญหาร่องแก้มลึก สำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนริ้วรอย อย่าง นีเวีย ลูมินัส630 แอนตี้-เอจ แอนด์ สปอร์ต เซรั่ม ช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า พร้อมเติมเต็มความยืดหยุ่น ดูแลผิวให้เต่งตึงมากขึ้น แต่หากผิวมีปัญหาริ้วรอยร่องแก้มลึก อาจหมั่นทาครีมเป็นประจำร่วมกับการทำหัตการต่าง ๆ ร่วมด้วย ทางที่ดีควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ร้ายผิว และดูแลปกป้องผิวจะช่วยลดปัญหาปัญหาร่องแก้มลึกลงได้