ส่วนผสม

ส่วนผสม

Significant Ingredients

ALUMINUM CHLOROHYDRATE / ACH

 

Aluminum chlorohydrate คืออะไร

Aluminium Chlorohydrate (ACH) คือสารที่จัดอยู่ในกลุ่มเกลืออะลูมิเนียม ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ Aluminium Chlorohydrate เป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและสามารถผลิตได้ในทางอุตสาหกรรม 

Aluminium Chlorohydrate: การทำงาน

เคยสงสัยไหมว่าผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อกับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายต่างกันอย่างไร ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากเหงื่อเท่านั้น ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อมีคุณสมบัติยับยั้งเหงื่อโดยตรง เพราะมีส่วนผสมของ Aluminium Chlorohydrate ซึ่งจะช่วยให้ต่อมเหงื่อบริเวณใต้วงแขนหดตัว เหงื่อจึงออกน้อยลง ทำให้ไม่มีรอยเปียกตามเสื้อผ้าและปราศจากกลิ่นกายไม่พึงประสงค์

นีเวียนำ Aluminium Chlorohydrate มาใช้อย่างไร

นีเวียนำ Aluminium Chlorohydrate มาใช้ในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ เนื่องจากเป็นหนึ่งในส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ยับยั้งการผลิตเหงื่อได้ดีที่สุด โดยจะเข้าไปปิดรูระบายเหงื่อบริเวณใต้วงแขน เพื่อมอบความสดชื่นมั่นใจให้กับคุณ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายของเรา (สูตรที่ไม่มีสารระงับเหงื่อ) ไม่มีส่วนผสมของ Aluminium Chlorohydrate แต่จะใช้สารต้านแบคทีเรียที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นกาย คุณเลือกเองได้ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ปราศจากอะลูมิเนียมหรือผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่มี Aluminium Chlorohydrate

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

เป็นที่วิตกกันว่าอะลูมิเนียมอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมและโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ เนื่องจากพบอะลูมิเนียมมากกว่าปกติในสมองของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่านี่เป็นสาเหตุหรือผลข้างเคียงของโรคหรือไม่
อะลูมิเนียมเป็นธาตุที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับสามบนเปลือกโลก โดยพบได้ทั่วไปตามธรรมชาติในน้ำดื่ม ผัก ผลไม้ ธัญพืช และเนื้อสัตว์ ร่างกายของเราจึงได้รับอะลูมิเนียมจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่เราบริโภคเข้าไปจะถูกกำจัดผ่านไตของเรา แต่หลายๆ คนยังวิตกกังวลว่าอะลูมิเนียมในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่ออาจซึมผ่านผิวหนังและเพิ่มระดับอะลูมิเนียมในร่างกายให้สูงกว่าปกติ งานศึกษาวิจัยสองชิ้นที่วิจัยในผู้อาสาสมัครได้ข้อสรุปตรงกันว่า Aluminium Chlorohydrate สามารถซึมผ่านผิวหนังได้จริง แต่ปริมาณอะลูมิเนียมที่ผ่านเข้าไปในร่างกายมีเพียง 0.01 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อตามปกติจึงถือว่ามีความปลอดภัย นอกจากนี้ ทันทีที่ Aluminium Chlorohydrate สัมผัสกับเหงื่อ ก็จะเปลี่ยนเป็น Aluminum Hydroxide ซึ่งเป็นสารที่มีสถานะเป็นของแข็งไม่ละลายน้ำ จึงซึมผ่านปราการผิวเข้าไปในร่างกายไม่ได้ แม้คุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อทันทีหลังโกนขน ผิวของคุณก็จะไม่ดูดซึมอะลูมิเนียมในปริมาณที่สูงขึ้น แต่คุณอาจรู้สึกแสบผิวเล็กน้อย เพราะผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจำนวนมากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดังนั้น ควรรอสักครู่ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์!

BHT

 

BHT คืออะไร

BHT คือสารกันเสียที่ใช้ในอาหารและเครื่องสำอาง ส่วนผสมหลายอย่างจะมีกลิ่นเหม็นหืนเมื่อทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในสภาพแวดล้อม แต่ BHT จะทำหน้าที่ปกป้องส่วนผสมเหล่านี้เมื่อสัมผัสกับอากาศและช่วยให้คงคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น

BHT: การทำงาน

สิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิดต่างต้องการออกซิเจน แต่ออกซิเจนกลับเป็นสารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกับสิ่งอื่นๆ ได้ง่าย ตัวอย่างเช่น สนิมที่เกิดขึ้นเมื่อเหล็กสัมผัสกับอากาศ น้ำมันและไขมันที่มีกลิ่นเหม็นหืนเมื่อเจอกับออกซิเจน BHT จึงเป็นทางออกของเรื่องนี้ เพราะ BHT (ย่อมาจาก Butylated Hydroxy-Toluene ซึ่งเป็นชื่อที่ค่อนข้างยาว) ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ ผู้ผลิตจึงนำมาใช้กับอาหาร ยา และเครื่องสำอางเพื่อถนอมผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่และคงคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น

นีเวียนำ BHT มาใช้อย่างไร

เรายึดมั่นในการใช้ส่วนผสมเท่าที่จำเป็นเท่านั้นตามหลักความรับผิดชอบและความเคร่งครัด โดยนีเวียใช้ BHT เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของเราน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ และเราใช้ระดับความเข้มข้นต่ำมาก ซึ่งน้อยกว่าปริมาณที่ใส่ในอาหารส่วนใหญ่เสียอีก! BHT ช่วยให้ครีม โลชั่น ผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก เจลโกนหนวด และผลิตภัณฑ์อาบน้ำของเราคงคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น หากปราศจากสารกันเสีย จะทำให้น้ำมันจากธรรมชาติและส่วนผสมอื่นๆ เริ่มเหม็นหืน มีประโยชน์น้อยลง และมีกลิ่นแปลกๆ แม้แต่ผลิตภัณฑ์น้ำหอมก็ยังมี BHT เจือจางในปริมาณน้อยมาก เนื่องจากผู้ผลิตน้ำหอมที่จัดส่งหัวเชื้อน้ำหอมใช้ BHT เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้น้ำหอมคงกลิ่นหอมได้ยาวนาน

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

มีบางคนกล่าวอ้างว่า BHT สามารถซึมผ่านผิวหนังและแทรกแซงการทำงานของระบบฮอร์โมนในร่างกายมนุษย์ โดยสารที่ทำปฏิกิริยาดังกล่าวเรียกว่า “สารรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ” มีการศึกษาวิจัยที่พบว่า BHT มีผลข้างเคียงต่อต่อมไร้ท่อ แต่การศึกษาดังกล่าวแทบจะไม่ตรงกับหลักความเป็นจริง เพราะพวกเขาทดสอบโดยใช้ BHT ปริมาณสูงมากในระยะเวลาสั้นๆ ในทางกลับกัน นีเวียใช้ BHT ในระดับความเข้มข้นน้อยกว่ามาก อีกทั้งยังไม่มีผลการวิจัยใดๆ ที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นส่งผลเสียต่อร่างกายมนุษย์หรือภาวะสมดุลของฮอร์โมนแต่อย่างใด อันที่จริงแล้ว อาหารจากธรรมชาติ เช่น ถั่วเหลือง ยังส่งผลต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อสูงกว่ามาก!
BHT มีประวัติการใช้งานอย่างปลอดภัยมายาวนาน และไม่ได้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว องค์การอนามัยโลกได้ตรวจสอบเชิงลึกจนพบว่า BHT เหมาะที่จะนำมาใช้ในอาหาร เราจึงรับประทาน BHT ได้เช่นกัน! นอกจากนี้ เครื่องสำอางยังใช้ BHT ในระดับความเข้มข้นที่น้อยกว่าในอาหารมาก ผู้ผลิตทั่วโลกใช้ BHT ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมานานหลายทศวรรษ จึงพิสูจน์ได้ว่าปลอดภัยและให้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ ทั้งยังไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ที่ระบุว่าผู้ใช้มีอาการแพ้อีกด้วย
แล้ว BHT เป็นอันตรายต่อโลกของเราหรือเปล่า ผลการศึกษาวิจัยล่าสุดของ Australian National Industrial Chemicals Notification and Assessment Scheme (NICNAS) บ่งชี้ว่า BHT ไม่เป็นอันตรายต่อโลก โดยผลการประเมินสรุปได้ว่า BHT ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในระดับสูงต่อสิ่งแวดล้อม

น้ำหอม

 

น้ำหอมคืออะไร

หนึ่งในสิ่งแรกที่คุณจะสัมผัสได้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือกลิ่นเฉพาะตัว น้ำหอมช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ มีกลิ่นหอมรื่นรมย์เป็นเอกลักษณ์
น้ำหอมทุกๆ กลิ่นสร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมวัตถุดิบและกลิ่นหอมต่างๆ เข้าด้วยกันตามสูตรเฉพาะตัว โดยเฉลี่ยแล้ว น้ำหอมหนึ่งกลิ่นจะมีส่วนผสมที่ให้ความหอม 30-50 ชนิด ส่วนผสมของน้ำหอมคือกลิ่นหอมจากธรรมชาติหรือกลิ่นหอมสังเคราะห์ซึ่งสามารถใช้แยกกันได้ แต่มักนำมาผสมกันเพื่อให้ได้กลิ่นหอมพิเศษ สารประกอบที่ให้กลิ่นหอมธรรมชาตินั้นผลิตขึ้นจากพืช (เช่น เอสเซนเชียลออยล์) และ/หรือสิ่งอื่นๆ ในแหล่งธรรมชาติ ขณะที่สารประกอบสังเคราะห์จะผลิตขึ้นในห้องทดลอง อย่างไรก็ตาม น้ำหอมมักมีทั้งส่วนผสมจากธรรมชาติและส่วนผสมสังเคราะห์

น้ำหอม: การทำงาน 

การศึกษาวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าน้ำหอมทำให้ความสุขของเราเพิ่มขึ้นและยังส่งผลต่อสภาพจิตใจในแง่บวก โดยขึ้นอยู่กับส่วนผสม ตัวอย่างเช่น อาจทำให้จิตใจสงบหรือรู้สึกกระปรี้กระเปร่า น้ำหอมจึงทำให้เครื่องสำอาง (และผลิตภัณฑ์อีกมากมาย) มีกลิ่นน่าใช้และมีความเฉพาะตัว โดยมอบกลิ่นหอมรื่นรมย์ กลบกลิ่นส่วนผสมบางอย่างที่ไม่หอม ยกระดับประสบการณ์ในการใช้ผลิตภัณฑ์ รวมถึงช่วยให้เราแสดงความแตกต่างของเรา

นีเวียนำน้ำหอมมาใช้อย่างไร

นีเวียใช้น้ำหอมในผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเรา โดยคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติและส่วนผสมสังเคราะห์อย่างพิถีพิถัน ตามหลักการของเรานั้น เราจะไม่ใส่สิ่งใดในผลิตภัณฑ์โดยไม่จำเป็น เราจึงใช้น้ำหอมในปริมาณจำกัดอย่างยิ่ง นีเวียต้องการทำให้แน่ใจว่ากลิ่นหอมทุกกลิ่นที่เราใช้มีความปลอดภัยและไม่เปลี่ยนแปลง เราจึงได้จัดทำรายการพิเศษซึ่งกำหนดปริมาณสูงสุดสำหรับส่วนผสมที่มีน้ำหอมบางอย่างและจัดเตรียมข้อกำหนดอื่นๆ ที่มีผลผูกพันเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของน้ำหอมที่เราใช้ทั้งหมดโดยเข้มงวดกว่าข้อกำหนดทางกฎหมายในปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่เรียกว่ารายการข้อจำกัดสำหรับน้ำหอมซึ่งใช้กับผู้ผลิตน้ำหอมของเราทุกราย

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

น้ำหอมอาจทำให้เกิดอาการแพ้เช่นเดียวกันส่วนผสมอื่นๆ เนื่องจากน้ำหอมมีส่วนผสมต่างๆ หลากหลาย ไม่ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะมาจากธรรมชาติ สิ่งอื่นๆ ในแหล่งธรรมชาติ หรือสังเคราะห์ขึ้น ก็แทบไม่แตกต่างกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์นีเวียที่มีน้ำหอม! เพราะเราใช้เฉพาะน้ำหอมที่ไม่สัมพันธ์กับอาการแพ้และตรวจสอบน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ของเราอย่างระมัดระวัง ส่วนผสมทุกชนิดรวมถึงน้ำหอมที่เราใช้จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ผลกระทบต่อผิวที่เคร่งครัดของเรา 
ขณะที่คนส่วนใหญ่สามารถใช้น้ำหอมได้ แต่มีประชากร 1- 2 เปอร์เซ็นต์ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมบางอย่างในน้ำหอม ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทั้งส่วนผสมจากธรรมชาติและส่วนผสมสังเคราะห์ กฎหมายด้านเครื่องสำอางของยุโรปได้ระบุสาร 26 ชนิดที่สัมพันธ์กับการเกิดอาการแพ้ หากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีส่วนผสมใดๆ ในรายการดังกล่าวเกินกว่าขั้นต่ำที่กำหนด ผู้ผลิตจะต้องแสดงข้อมูลไว้บนบรรจุภัณฑ์ การเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หากคุณเคยมีอาการแพ้ คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อเข้ารับการทดสอบภูมิแพ้ ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบถึงกลิ่นที่คุณแพ้และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีน้ำหอม

TITANIUM DIOXIDE NANOPIGMENTS (สารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุ)


Titanium Dioxide Nanopigment คืออะไร

Titanium Dioxide คือสารสีขาวที่สกัดมาจากแร่ธาตุ โดยจะใช้เป็นเม็ดสีในผลิตภัณฑ์กันเเดด สีผสมอาหาร และในผลิตภัณฑ์อื่นๆ Nanopigment ของสารดังกล่าวคืออนุภาคขนาดจิ๋วที่มีขนาดเล็กกว่าเม็ดทรายนับล้านเท่า ผู้ผลิตเครื่องสำอางจะนำ Titanium Dioxide Nanopigment มาใช้ผสมสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุ (หรือฟิสิคัล) เมื่อนำมาทาผิว จะมีคุณสมบัติสะท้อนและหักเหรังสี UV รวมถึงช่วยปกป้องผิวจากอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัย และมะเร็งผิวหนัง

Titanium Dioxide Nanopigment: การทำงาน

ลองนึกถึงเสื้อเกราะปกคลุมร่างกายที่ช่วยปกป้องผิวคุณจากรังสี UV ดูสิ ทีนี้ลองจินตนาการว่าเสื้อเกราะตัวนี้ทำมาจากโล่ที่มีขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจำนวนนับไม่ถ้วน (ขณะเดียวกันก็สร้างผ้าคลุมสีขาวเนียนนุ่มนับล้านบนผิวคุณ) นั่นแหละคือการทำงานของ Titanium Dioxide Nanopigment ซึ่งจะสะท้อนรังสี UV เช่นเดียวกับเกราะวาววับก่อนที่รังสีจะทำอันตรายต่อผิวและ DNA ในเซลล์ผิว โดยทำหน้าที่เป็นสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุเพื่อช่วยปกป้องคุณจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที เช่น อาการผิวไหม้แดด รวมถึงอันตรายในระยะยาว เช่น มะเร็งผิวหนัง พร้อมทั้งช่วยดูแลสุขภาพผิวและคงความงดงามตามธรรมชาติ

นีเวียนำ Titanium Dioxide มาใช้อย่างไร 

นีเวียเลือกใช้สารป้องกันแสงแดดในสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงสถานการณ์และความจำเป็นในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้น นีเวียจึงนำ Titanium Dioxide มาใช้ร่วมกับสารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิก (หรือแบบเคมีคัล) ในผลิตภัณฑ์กันเเดดบางชนิด เราใช้วิธีนี้เพื่อให้คุณได้สัมผัสคุณสมบัติที่ดีที่สุดทั้งสองด้าน นั่นก็คือการป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่น่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์กันเเดดที่ทาง่ายกว่าผลิตภัณฑ์กันเเดดที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุเพียงอย่างเดียว พร้อมมอบสัมผัสที่ดีให้ผิวคุณ และมีคุณสมบัติกันน้ำ (อย่าลืมทาซ้ำหลังลงเล่นน้ำด้วยล่ะ!)

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคบางแห่งกล่าวอ้างครั้งแล้วครั้งเล่าว่าวัสดุนาโนที่มี Nanopigment เป็นส่วนผสมอาจซึมผ่านผิวหนังและสร้างความเสียหายให้ร่างกายได้ เราเชื่อว่าควรดำเนินการพิจารณาผลกระทบด้านสุขภาพและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวอ้างข้างต้นใช้ไม่ได้กับ Titanium Dioxide ซึ่งเป็น Nanopigment ประเภทเดียวที่เราใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดด การศึกษาวิจัยจำนวนมากที่ดำเนินการอย่างครอบคลุมได้ให้ข้อสรุปว่าส่วนผสมเหล่านี้ไม่สามารถซึมผ่านปราการผิวขณะที่ทาผลิตภัณฑ์กันแดด หน่วยงานอิสระของทางการ เช่น European Commission’s Scientific Committee for Consumer Safety (SCCS), German Federal Institute for Risk Assessmen และโครงการ EU NANODERM ต่างได้ข้อสรุปว่า Nanopigment ในเครื่องสำอางไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวที่ดี นอกจากนี้ ผลการศึกษาของ NANODERM ยังพบว่าอนุภาคขนาดจิ๋วจะไม่ซึมผ่านผิวหนังชั้นใน จึงเข้าไปในร่างกายไม่ได้และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในทางกลับกัน Nanopigment จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้เสียหายและป้องกันมะเร็งผิวหนัง คุณจึงควรใส่ใจใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดทุกครั้งที่ต้องสัมผัสแสงอาทิตย์ 

พาราเบน


พาราเบนคืออะไร

พาราเบนจะช่วยให้เครื่องสำอางคงความสดใหม่อยู่เสมอเพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าคุณจะลืมปิดฝาครีมดูแลผิวหน้าในห้องน้ำ หรือเมื่อผลิตภัณฑ์กันเเดดได้รับความร้อนตอนวางบนผ้าขนหนูชายหาด เพราะหากไม่มีพาราเบน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิดจะเสียในไม่นานหลังเปิดฝา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ พาราเบนมีคุณสมบัติในการรักษาโลชั่นดูแลผิวกาย ครีมดูแลผิวหน้า หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่คุณชื่นชอบให้คงความสดใหม่เช่นเดียวกับวันแรกที่คุณเปิดใช้

พาราเบน: การทำงานและความปลอดภัย

พาราเบนจัดเป็นสารกันเสีย เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โดยเฉพาะชนิดที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก คงความสดใหม่ได้ยาวนานด้วยการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา พาราเบนสามารถสังเคราะห์เทียมขึ้นมาหรือพบได้ในส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น แครอท แตงกวา ผลมะกอก ฯลฯ มีการนำพาราเบนมาใช้ยืดอายุเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน รวมถึงอาหารและยามาเป็นเวลามากกว่า 80 ปีเนื่องจากมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูง ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพาราเบนอย่างจริงจัง จริงๆ แล้วพาราเบนเป็นสารกันเสียที่ได้รับการวิจัยมากที่สุด โดยผลลัพธ์ที่ได้จากคณะกรรมาธิการยุโรปและคณะกรรมการประเมินผลอิสระของสหรัฐฯ (Cosmetic Ingredient Review / CIR) เห็นพ้องกันว่าพาราเบนมีความปลอดภัย

นีเวียนำพาราเบนมาใช้อย่างไร

ณ ขณะนี้ พาราเบนถือเป็นสารกันเสียที่ปลอดภัยและอ่อนโยนที่สุดที่เราสามารถใช้ได้ อย่างไรก็ตาม เราได้ศึกษาวิจัยอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพและดีต่อสุขภาพมากที่สุดมาดูแลผลิตภัณฑ์ของเรา สิ่งแวดล้อม และตัวคุณให้ปลอดภัย โดยนีเวียใช้พาราเบนเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของเราเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนอีก 80 เปอร์เซ็นต์จะไม่มีส่วนผสมของพาราเบน เช่น นีเวีย ครีมสูตรดั้งเดิมของนีเวียซึ่งเป็นสูตรน้ำมัน จึงช่วยคงความสดใหม่ให้ผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องพึ่งสารกันเสีย นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั้งหมดของเราก็ไม่มีสารพาราเบน แต่มีผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่ชนิดที่ยังใช้พาราเบนอยู่ เช่น ครีมดูแลผิวหน้า ผลิตภัณฑ์กันแดด และโลชั่นดูแลผิวกาย เราใส่สารกันเสียในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไว้เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัย 

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 

มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพาราเบนมากกว่าสารกันเสียทุกชนิด ซึ่งได้ข้อสรุปว่าพาราเบนมีประโยชน์หลายอย่าง มีประสิทธิภาพ และใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยแทบไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แต่อย่างใด คนบางส่วนยังวิตกกังวลว่าพาราเบนอาจสะสมในร่างกายและส่งผลต่อฮอร์โมนหรือสุขภาพทั่วไปในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาเพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่าพาราเบนเป็นสารที่ย่อยสลายและขับออกร่างกายได้เร็วมาก ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปและ American Cosmetic Ingredient Review จึงลงความเห็นว่าพาราเบนไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ 
นอกจากนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของนีเวียยังยืนยันว่าพาราเบนปลอดภัยสำหรับมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เรายังคงใช้สารดังกล่าวในผลิตภัณฑ์บางชนิด แต่เราต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัยและดีต่อทุกคนรวมถึงคนที่แพ้พาราเบนด้วย เราจึงได้มองหาตัวเลือกสารกันเสียอื่นๆ ที่อ่อนโยนและปลอดภัยเท่าๆ กัน จนค้นพบสารกันเสียทางเลือกจำนวนมากและได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่อาจไวต่อพาราเบน หรือต้องการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีพาราเบนเป็นส่วนผสม

สารประกอบ PEG


สารประกอบ PEG คืออะไร

PEG ย่อมาจาก Polyethylene Glycol และถือเป็นส่วนผสมพิเศษในโลกเครื่องสำอาง โดยใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ สารที่ใช้ยึดเหนี่ยว สารให้ความคงตัว และสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม

สารประกอบ PEG: การทำงาน

สารประกอบ PEG สามารถทำหน้าที่พร้อมกันได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์เพื่อให้น้ำมันและน้ำผสมเข้ากันจนได้เนื้อครีมและโลชั่นที่เนียนนุ่มน่าใช้ ช่วยละลายหัวเชื้อน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก และช่วยให้แชมพูกับเจลอาบน้ำมีฟองโฟมนุ่มละมุน ส่วนการใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม สารประกอบ PEG จะช่วยดูแลผิวให้นุ่มและชุ่มชื้น นอกจากนี้ PEG ที่มีสารพัดประโยชน์ยังใช้ทำความสะอาดได้เช่นกัน สารประกอบ PEG ไม่เพียงแต่จะใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเท่านั้น แต่ยังใช้ในแวดวงการแพทย์และเภสัชภัณฑ์อีกด้วย

นีเวียนำสารประกอบ PEG มาใช้อย่างไร

นีเวียใช้สารประกอบ PEG เป็นส่วนผสมในครีม โลชั่น เจลอาบน้ำ แชมพู และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย ซึ่งสาร PEG ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ได้หลายอย่างเท่านั้น แต่ยังไม่ทำให้ผิวระคายเคืองและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้อีกด้วย 

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

มีการกล่าวอ้างว่าสารประกอบ PEG อาจซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายและนำส่วนผสมที่อาจเป็นอันตรายเข้ามาด้วย แต่ความจริงก็คือสารประกอบ PEG มีหลายชนิดและล้วนทำหน้าที่แตกต่างกัน สารประกอบบางชนิดช่วยให้ตัวยาดูดซึมผ่านผิวหนังได้ง่ายขึ้น เพราะเป็นชนิดที่นำมาใช้ในยาทาแผลรักษาโรค แต่สารประกอบอื่นๆ จะไม่สามารถซึมผ่านปราการผิวได้ ผลกระทบที่สารประกอบ PEG มีต่อการดูดซึมผ่านผิวหนังจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของปริมาณที่ใช้ รวมถึงส่วนผสมอื่นๆ ที่ใช้ในสูตรการผลิต นีเวียมุ่งมั่นที่จะใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยในสัดส่วนที่จำเป็น จึงได้เลือกใช้สารประกอบในผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ เรายังใช้ในระดับความเข้มข้นต่ำเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ส่วนในสูตรใหม่ เราใช้เวลาทดสอบอย่างครอบคลุมจนมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่ระคายเคือง ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือมีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์

ซิลิโคน


ซิลิโคนคืออะไร

ซิลิโคนคือสารประกอบเคมีที่มีคุณลักษณะเป็นของเหลวอ่อนนุ่ม ผู้ผลิตจะนำซิลิโคน ออยล์มาผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เกลี่ยง่ายน่าใช้

ซิลิโคน: การทำงานและความปลอดภัย

ซิลิโคนคือ “ตัวช่วยให้เรียบเนียน” ในโลกเครื่องสำอาง หากไม่มีซิลิโคนเป็นส่วนผสม ครีมดูแลผิวหน้าและโลชั่นจะมีเนื้อกระด้างไม่น่าสัมผัส ในทางเคมี ซิลิโคนคือกลุ่มสารประกอบที่มีสายโซ่อันเกิดจากการเรียงตัวของอะตอมซิลิโคนและอะตอมออกซิเจนผสมกับธาตุอื่นๆ ซิลิโคนมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ไม่ทำปฏิกิริยากับสสารอื่นๆ ได้ง่าย และอ่อนโยนต่อผิว
ซิลิโคนจึงใช้กับอาหารได้อย่างปลอดภัย ไม่แน่ว่าคุณอาจมีไม้พายซิลิโคนหรือเครื่องครัวอื่นๆ ที่ทำจากซิลิโคนก็เป็นได้ ส่วนซิลิโคนที่ใช้ในเครื่องสำอางเป็นซิลิโคน ออยล์ ซึ่งเป็นของเหลวใสไร้กลิ่นที่ช่วยให้โลชั่น ครีม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ นุ่มลื่นดุจกำมะหยี่

นีเวียนำซิลิโคนมาใช้อย่างไร

นีเวียนำซิลิโคนต่างๆ กว่า 30 ชนิดมาใช้ในผลิตภัณฑ์แบบไม่ต้องล้างออกเป็นหลักประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราในทั่วโลก เช่น ครีมดูแลผิวหน้าและโลชั่นหรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายต่างก็มีซิลิโคนเป็นส่วนผสม สาเหตุที่ซิลิโคนมีหลายชนิดเพราะแต่ละชนิดต่างให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แต่เราเลือกใช้เฉพาะส่วนผสมที่ส่งผลดีต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณเท่านั้น ซิลิโคน ออยล์ในโลชั่นและครีมจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มอบสัมผัสที่ดีเมื่อใช้ พร้อมช่วยให้ผิวของคุณเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่ ส่วนในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ซิลิโคนจะป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตและผมชี้ฟู จึงช่วยให้เส้นผมนุ่มสลวย ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสูตรลิควิด ซิลิโคนจะช่วยให้ส่วนผสมออกฤทธิ์ระงับเหงื่อที่สำคัญกระจายตัวอย่างทั่วถึงและไม่จับตัวเป็นก้อน
ซิลิโคนมีข้อดีคือไม่เพียงแต่จะใช้งานได้อเนกประสงค์เท่านั้น แต่ยังปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าน้ำมันจากธรรมชาติบางชนิดอีกด้วย! ขณะที่น้ำมันจากธรรมชาติจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบนผิวหรือเป็นสาเหตุของอาการแพ้ แต่ซิลิโคน ออยล์แทบไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนโดยง่าย นอกจากนี้ ความเหลวเป็นพิเศษของซิลิโคนยังเหมาะกับทุกสภาพผิวและเหมาะสำหรับใช้ในเครื่องสำอาง แล้วซิลิโคนในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทำให้ผมลีบแบนหรือไม่ คำตอบคือยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นระบบว่าซิลิโคนทำให้ผมลีบแบน ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของนีเวียเป็นสูตรล้างออกง่าย พร้อมช่วยให้เส้นผมของคุณเปล่งประกายเงางาม นอกจากนี้ เรายังมีแชมพูและคอนดิชันเนอร์สูตรปราศจากซิลิโคนให้คุณเลือกใช้อีกด้วย

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

มีผู้กล่าวอ้างว่าซิลิโคน ออยล์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เพราะซิลิโคนในแชมพู คอนดิชันเนอร์ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ชะล้างออกจะไหลลงสู่ท่อระบายน้ำไปรวมอยู่ในน้ำเสีย และซิลิโคนก็เป็นสารที่มีความเสถียรสูง จึงย่อยสลายได้ยาก แต่เนื่องจากซิลิโคนแทบจะไม่ละลายในน้ำและไม่เป็นพิษ เราจึงสรุปได้ว่าไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แม้เมื่อเร็วๆ นี้ European Chemicals Agency จะถือว่าซิลิโคนที่ใช้เวียนซ้ำอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่หน่วยงานอื่นๆ เช่น ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ลงความเห็นว่าซิลิโคนที่ใช้เวียนซ้ำมีความปลอดภัย เราไม่ควรสับสนระหว่างซิลิโคนที่ใช้เวียนซ้ำดังกล่าว (ได้แก่ D5 และ D6) กับซิลิโคนส่วนใหญ่ที่เหลือซึ่งไม่อยู่ในกลุ่มนี้และถือว่ามีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่สะสมในทางชีวภาพและไม่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตตามฐานความรู้ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เรายังติดตามการปรับปรุงข้อมูลกฎหมายรวมถึงการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในอนาคตเกี่ยวกับซิลิโคนที่ใช้เวียนซ้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบและจัดเตรียมมาตรการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา พร้อมทั้งมอบประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมให้แก่ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

สารป้องกันแสงแดด


นีเวียปกป้องผิวคุณจากภัยร้ายของแสงแดดอย่างไร

ปกติแล้ว แสงแดดถือว่าดีต่อสุขภาพของเรา แสงอาทิตย์ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนินที่ทำให้มีความสุข ดังนั้นดวงอาทิตย์จึงทำให้เรามีความสุข แสงอาทิตย์ช่วยให้เราเปล่งประกายงดงามและช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตวิตามินดีซึ่งมีหน้าที่พิเศษในการดูแลกระดูกให้แข็งแรง รวมถึงสุขภาพโดยรวมของเรา แต่สิ่งที่เรียกว่ารังสี UVA และ UVB ในแสงแดดกลับส่งผลเสียต่อผิวเรา รังสี UVB จะทะลุผ่านผิวชั้นบนสุด ทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดดที่ปวดแสบ นอกจากนี้ รังสี UVB สามารถทำลาย DNA ได้โดยตรงเนื่องจากมีระดับพลังงานสูง ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ส่วนรังสี UVA จะทะลุผ่านผิวได้ลึกกว่า แม้ตามปกติ เราจะสัมผัสถึงรังสีเหล่านี้ไม่ได้เนื่องจากไม่ทำให้เราปวดแสบ แต่รังสีเหล่านี้ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่สามารถทำลายเซลล์และ DNA ซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง รวมถึงภาวะเครียดอนุมูลอิสระจาก UVA ยังอาจทำให้เกิดอาการแพ้และริ้วรอยแห่งวัยได้เช่นกัน รู้ไหมว่าริ้วรอยประมาณ 80% เกิดจากรังสี UVA!
ดังนั้น เราจึงควรใช้เวลาท่ามกลางแสงแดดอย่างระมัดระวังโดยมีการปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเพียงพอ หนึ่งในวิธีปกป้องผิวที่แพร่หลายที่สุดก็คือการทาผลิตภัณฑ์กันแดด นีเวียมีบทบาทในการบุกเบิกผลิตภัณฑ์กันแดด (ครีมกันแดดสูตรแรกของนีเวียวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 1936!) และทุกวันนี้ เรายังเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดอันดับ 1 ของโลก* เพราะความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมของฝ่ายวิจัยและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียมีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดซึ่งจำเป็นต่อการปกป้องผิวคุณจากผลกระทบของแสงแดด ปกติแล้ว สารป้องกันแสงแดดมีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิก (หรือที่เรียกว่าสารกันแดดแบบเคมีคัล) ซึ่งจะดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน กันแดดประเภทนี้จะมีข้อดี เช่น เกลี่ยง่ายหรือเป็นสูตรโปร่งแสง ส่วนสารป้องกันแสงแดดอีกประเภทก็คือสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุ (หรือที่เรียกว่าสารกันแดดแบบฟิสิคัล) ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นเกราะปกป้องผิวคุณเมื่อทากันแดด และเกราะเหล่านี้จะสะท้อนรังสี UV ออกไปเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผิว อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุเพียงอย่างเดียวจะเกลี่ยบนผิวได้ยากกว่า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกเพียงอย่างเดียวหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งสารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกและแบบแร่ธาตุจะเกลี่ยบนผิวได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ กันแดดที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุเพียงอย่างเดียวอาจจะทิ้งคราบขาวจางๆ ไว้ ซึ่งจะหนาแตกต่างกันตามค่าในการป้องกันแสงแดด
นีเวียมีทั้งผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกเพียงอย่างเดียวหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งสารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกและแบบแร่ธาตุ เพื่อให้มั่นใจในการป้องกันแสงแดดที่น่าเชื่อถือ พร้อมมอบประสบการณ์อันน่าพึงพอใจสูงสุดในการใช้งานแต่ละโอกาส

*แหล่งข้อมูล: Euromonitor International Limited; NIVEA in the category Sun Care, incl. Sun Protection, Aftersun and Self-Tanning; in retail value terms, ข้อมูลปี 2018

ผลิตภัณฑ์กันแดดและปะการัง

นีเวียมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงปะการังซึ่งเป็นหนึ่งในระบบนิเวศทางทะเลที่หลากหลายที่สุด สิ่งมีชีวิตในทะเลประมาณหนึ่งในสี่ดำรงชีวิตโดยพึ่งพิงปะการัง เราทราบดีว่าสถานการณ์ของปะการังทั่วโลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติเพราะปัจจัยต่างๆ มากมายที่มีความซับซ้อน ส่งผลให้ปะการังลดลง สาเหตุหลักสองประการก็คือความผิดปกติของอุณหภูมิและสภาวะอากาศที่รุนแรงซึ่งสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก นอกจากนี้ ปัจจัยในพื้นที่ก็ส่งผลกระทบอย่างมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มลภาวะจากภาคพื้นดินอันเกิดจากการเกษตรและการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง การประมงที่ไม่คำนึงถึงหลักความยั่งยืน รวมถึงการเพิ่มจำนวนของสิ่งมีชีวิตที่เป็นภัยต่อปะการัง 
เมื่อเร็วๆ นี้ การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปะการังในสภาวะของห้องทดลองได้บ่งชี้ว่าสารกันแดดบางตัวอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะปะการังฟอกขาว ซึ่งหลักๆ ได้แก่ Oxybenzone (benzophenone-3) และ Octinoxate (ethylhexyl methoxycinnamate) มลรัฐฮาวายจึงห้ามไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีสารป้องกันแสงแดดแบบเคมีคัลตั้งแต่ปี 2021
ผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียในยุโรปไม่เคยใช้ Oxybenzone เนื่องจากสารป้องกันแสงแดดดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงที่กำหนดไว้สำหรับกันแดดของเรา นีเวียจึงหยุดใช้ Octinoxate ในผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งหมดที่ยุโรปตั้งแต่ต้นปี 2016 หมายความว่าผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งหมดของนีเวียในยุโรปได้มาตรฐานตามกฎหมาย Hawaiian Reef Bill ก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้ในปี 2018 เสียอีก
นีเวียใช้เฉพาะสารป้องกันแสงแดดที่หน่วยงานกำกับดูแลที่เหมาะสมพิจารณาแล้วว่าปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เราจะประเมินส่วนผสมที่เรามีว่าอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ส่วนผสมใหม่จะต้องผ่านมาตรฐานสูงสุดของเราและเราจะไม่ใช้ส่วนผสมดังกล่าวหากความรู้วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันและการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตอันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราได้บ่งชี้ว่าส่วนผสมเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม 
อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยสารป้องกันแสงแดดและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังคงอยู่ในขั้นแรกๆ เท่านั้น ทั้งยังเป็นการดำเนินการในห้องทดลองเป็นหลัก ดังนั้น จึงยังไม่มีความชัดเจนในทางวิทยาศาสตร์ว่าสารป้องกันแสงแดดส่งผลต่อปะการังรวมถึงสิ่งแวดล้อมทางทะเลในวงกว้างมากน้อยเพียงใดในสภาวะจริง
เราปรารถนาที่จะติดตามและทำงานด้วยการค้นพบล่าสุดเพื่อผลักดันนวัตกรรมที่ยั่งยืนมากกว่าให้สำเร็จลุล่วง ดังนั้น เราจึงแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน และผู้ผลิตของเราอย่างจริงจัง เพื่อช่วยให้เราสามารถพัฒนาและตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


cream for skin

ยูเซอริท


ยูเซอริทคืออะไร

ยูเซอริทถือเป็นส่วนผสมพื้นฐานในเครื่องสำอางยุคใหม่และในนีเวียทั้งแบรนด์ อีมัลซิไฟเออร์ชนิดนี้ได้ถูกค้นพบมามากกว่าร้อยปี และกลายเป็นส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์นีเวีย ครีมยอดนิยมของเรา ยูเซอริททำหน้าที่เป็นตัวประสานที่ช่วยให้ส่วนที่เป็นน้ำมันกับน้ำในเครื่องสำอางรวมตัวกัน โดยเป็นสารแปรรูปจากธรรมชาติที่ผลิตจากแว็กซ์ขนแกะ

ยูเซอริทพิเศษอย่างไร

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางส่วนใหญ่ประกอบด้วยส่วนที่เป็นน้ำและน้ำมัน การผสมทั้งสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันจนได้เนื้อสัมผัสครีมที่เนียนนุ่มและคงตัวเป็นเรื่องท้าทายที่สุดในวงการเครื่องสำอาง ในช่วงแรกนั้น อิมัลซิไฟเออร์หลายชนิดเพียงช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมเข้ากันเท่านั้นตราบที่อุณหภูมิยังคงที่ การค้นพบยูเซอริทจึงกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ยูเซอริทเป็นผลิตผลของไขมันบริสุทธิ์ที่สกัดจากขนแกะ (“ขี้ผึ้งเพื่อความงาม”) ทำหน้าที่ช่วยให้อิมัลชั่นคงตัวแม้ในสภาวะอากาศที่รุนแรง 

นีเวียนำยูเซอริทมาใช้อย่างไร

ที่นีเวีย ยูเซอริทมีความพิเศษสองด้าน เพราะเป็นทั้งอิมัลซิไฟเออร์เปี่ยมประสิทธิภาพ และเป็นทั้งส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์นีเวีย ครีมยอดนิยมของเรา อันที่จริงแล้ว การค้นพบยูเซอริทในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้ Oscar Troplowitz, Dr. Paul Gerson Unna และ Isaac Lifschütz เหล่าผู้คิดค้นนีเวีย ครีมได้สร้างสรรค์ครีมดูแลผิวเนื้อสีขาวดุจหิมะที่มีความคงตัวขึ้นมา ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ปฏิวัติวงการเครื่องสำอาง นีเวีย ครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยตลอด 100 ปีที่ผ่านมาและยังเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมตราบจนวันนี้ เพราะประสิทธิภาพในการดูแลผิว พร้อมปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน นอกจากนี้ นีเวีย ครีมยังอ่อนโยนเป็นพิเศษ จึงเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท แม้แต่ผิวแพ้ง่าย นีเวีย ครีมเป็นหนึ่งในครีมสูตรแรกๆ ของเราที่ทนต่อความร้อนและความเย็น จึงสามารถส่งไปได้ทั่วทุกมุมโลก และประสบความสำเร็จทั่วโลกจนทำให้นีเวียกลายเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอันดับ 1 ของโลก*

*แหล่งข้อมูล: Euromonitor International Limited; NIVEA by umbrella brand name in the categories Body Care, Face Care and Hand Care; in retail value terms, 2018

q10 ingredient

Q10


Q10 คืออะไร

Coenzyme Q10 คือโมเลกุลที่ร่างกายของเราผลิตได้เอง และมีบทบาทสำคัญต่อการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ โดยจะทำหน้าที่ในฐานะตัวให้พลังงานเพื่อช่วยให้เซลล์เติบโต คงความแข็งแรง และช่วยฟื้นบำรุงผิว นอกจากนี้ Q10 ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นโมเลกุลอันไวต่อการเกิดปฏิกิริยาที่สร้างความเสียหายให้เซลล์หลายระดับ รวมถึง DNA โปรตีน และไขมัน

Q10 พิเศษอย่างไร

Q10 ทำหน้าที่ช่วยในกระบวนการผลิตพลังงานของร่างกาย Coenzyme ชนิดนี้ช่วยสนับสนุนการผลิตพลังงานส่วนใหญ่ในร่างกายเรา Q10 มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอวัยวะต่างๆ ที่ต้องการพลังงานสูง รวมถึงผิวของเราซึ่งเป็นอวัยวะส่วนที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ ผิวของเด็กที่มีสุขภาพดีจะผลิตพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอและง่ายกว่าผิวผู้ใหญ่ ผิวผู้ใหญ่จึงต้องการความช่วยเหลือจาก Q10
ขณะที่ผิวของเราร่วงโรยไปตามวัย ระดับ Q10 ในเซลล์ผิวก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ระดับ Q10 ลดลง รวมถึงความเครียด ยาบางอย่าง และรังสี UV อาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ปลา ถั่ว มันฝรั่ง บร็อคโคลี่ และผักโขมอุดมด้วย Q10 การใช้เครื่องสำอางสูตรที่เหมาะสมในบริเวณเฉพาะจุดซึ่งเป็นสูตรที่มี Coenzyme Q10 เช่นเดียวกับผิวจะช่วยชดเชย Q10 ที่อยู่ในผิวได้ รวมถึงจะช่วยเสริมการทำงานให้เมแทบอลิซึมของพลังงานในเซลล์ผิวและลดจำนวนอนุมูลอิสระ

นีเวียนำ Q10 มาใช้อย่างไร

นีเวียเป็นผู้นำในการศึกษาวิจัย Q10 มาหลายทศวรรษ ในช่วงทศวรรษที่ 90 เราเป็นบริษัทแรกที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวซึ่งมี Q10 เป็นส่วนผสมในตลาดทั้งหมดและนับจากนั้น เราก็พัฒนาสูตรเรื่อยมา ผลิตภัณฑ์ Q10 ของเราใช้ Q10 คุณภาพสูงและช่วยให้ผิวได้รับ Q10 อย่างรวดเร็วด้วยสูตรที่คิดค้นมาเป็นพิเศษของเรา เราดำเนินการศึกษาและวิจัยอย่างครอบคลุมต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ Q10 ของเรา โดยเพิ่มส่วนผสมที่ทำงานร่วมกันได้ดี เช่น ครีเอทีนหรือวิตามินซีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเปี่ยมประสิทธิภาพ โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวที่เราคิดค้นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาดูแล
almond

สวีทอัลมอนด์ออยล์

สวีทอัลมอนด์ออยล์คืออะไร

สวีทอัลมอนด์ออยล์ได้จากการนำเมล็ดอัลมอนด์สุกในผลหวานหอมที่ปอกเปลือกแล้วของต้นอัลมอนด์มาสกัดเย็นแล้วนำไปกลั่น น้ำมันสีทองกลิ่นอัลมอนด์หวานละมุนชนิดนี้ใช้ในทางการแพทย์และในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาหลายศตวรรษ 

สวีทอัลมอนด์ออยล์พิเศษอย่างไร

อัลมอนด์เป็นของขบเคี้ยวที่ทั้งอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง นอกจากนี้ น้ำมันที่สกัดได้จากอัลมอนด์ยังเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท โดยเฉพาะผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย อัลมอนด์ออยล์มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง (90 เปอร์เซ็นต์) และยังมีกรดไลโนเลอิก 20-30 เปอร์เซ็นต์ โดยกรดไลโนเลอิกเป็นสารชนิดหนึ่งที่ผลิตขึ้นได้เองในผิวมนุษย์ โรงเรียนแพทย์แผนจีนโบราณ กรีก-เปอร์เซีย และอายุรเวทก็มีการนำสวีทอัลมอนด์ออยล์มาใช้

นีเวียนำสวีทอัลมอนด์ออยล์มาใช้อย่างไร

นีเวียใช้สวีทอัลมอนด์ออยล์บริสุทธิ์ที่ผ่านการสกัดเย็นมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจำนวนมาก โดยสรรหาอัลมอนด์ออยล์ทั้งหมดจากธรรมชาติและคัดสรรเฉพาะที่มีคุณภาพสูง เมล็ดอัลมอนด์ปอกเปลือก 1,000 กิโลกรัมจะนำมาผลิตสวีทอัลมอนด์ออยล์ได้ประมาณ 400 ลิตร ส่วนเมล็ดที่เหลือจะเป็นรำอัลมอนด์ซึ่งนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ขัดผิวและมาส์กสำหรับผิวกายและใบหน้า 
flour

ครีเอทีน

ครีเอทีนคืออะไร

ครีเอทีนคือสารประกอบอินทรีย์ที่ผลิตขึ้นในตับ ไต และตับอ่อน หน้าที่สำคัญคือให้พลังงานแก่อวัยวะโดยทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ที่เชื่อมต่อ ลำเลียง และปลดปล่อยพลังงาน

ครีเอทีนพิเศษอย่างไร

ตามปกติแล้ว ครีเอทีนจะพบได้ในผิวมนุษย์โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งสะสมพลังงาน 
การผลิตครีเอทีนในร่างกายจะชะลอตัวลงเมื่อเราอายุมากขึ้น แต่นีเวียสามารถพิสูจน์ได้ว่าครีเอทีนในสูตรของเราจะซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว จึงช่วยให้ผิวมีครีเอทีนในปริมาณมาก 

นีเวียนำครีเอทีนมาใช้อย่างไร

นีเวียใช้ครีเอทีนร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น Coenzyme Q10 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Q10 Plus ของเราและยังใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งคิดค้นขึ้นสำหรับสภาพผิวที่ต้องการแหล่งพลังงานประเภทนี้ 

ส่วนผสมออกฤทธิ์

มีการใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดในผลิตภัณฑ์นีเวีย ซัน เช่น Panthenol ซึ่งเป็นวิตามินบีที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ และเป็นที่รู้จักในด้านการฟื้นบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

เม็ดสี

ผลิตภัณฑ์นีเวีย ซัน คิดส์ที่คัดสรรมามีส่วนผสมของสารแต่งสีเพื่อเพิ่มความสนุกให้กับการทาผลิตภัณฑ์กันแดด ลูกๆ ของคุณจึงสัมผัสได้ว่าการทาผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นเรื่องสนุกตั้งแต่ยังเด็ก
สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม

สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม เช่น Butylene Glycol Dicaprylate / Dicaprate หรือ Dibutyl Adipate เป็นน้ำมันหรืออนุพันธุ์ที่ได้จากน้ำมัน ใช้สำหรับดูแลผิวให้เนียนนุ่ม
อิมัลซิไฟเออร์

ผลิตภัณฑ์นีเวีย ซันใช้อิมัลซิไฟเออร์ เช่น Sodium Stearoyl Glutamate เป็นส่วนผสมซึ่งจะช่วยกระจายน้ำมันหยดเล็กๆ ในน้ำเช่นเดียวกับนมที่แช่ในตู้เย็น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสดีเมื่อทา

สารก่อฟิล์ม

เรานำสารก่อฟิล์ม เช่น VP/Hexadecene Copolymer มาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์กันแดดจะสร้างชั้นฟิล์มกันน้ำเคลือบผิวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกัน UVA และ UVB แบบกันน้ำเป็นพิเศษ

น้ำหอม

น้ำหอมใช้ในการสร้างกลิ่นหอมรื่นรมย์อันเป็นเอกลักษณ์ของนีเวีย เพื่อชวนให้คุณนึกถึงวันที่อากาศแจ่มใสริมชายหาด

มอยเจอร์ไรเซอร์ / ตัวทำละลาย

มอยเจอร์ไรเซอร์ เช่น Glycerin เป็นส่วนผสมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อลดการสูญเสียน้ำในผิว ส่วนตัวทำละลายใช้สำหรับละลายสารประกอบที่เป็นของแข็งในสูตรการผลิต
สารปรับสภาพให้เป็นกลาง
สารปรับสภาพให้เป็นกลาง เช่น Sodium Hydroxide หรือกรดซิตริกจะใช้ในการปรับค่า pH ในสูตรของเรา
แป้ง
แป้ง เช่น Distarch Phosphate หรือซิลิกาจะช่วยดูดซับความมันบนผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส
สารกันเสีย
สารกันเสียจะป้องกันหรือชะลอการเติบโตของจุลินทรีย์เพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์กันแดดเสื่อมสภาพเร็ว
สารขับดัน
สารขับดัน เช่น Butane, Isobutane หรือ Propane เป็นสารที่ทำหน้าที่ผลักดันผลิตภัณฑ์ออกจากบรรจุภัณฑ์
สารปรับความข้นหนืด
สารปรับความข้นหนืด เช่น Microcrystalline Cellulose หรือ Xanthan Gum ใช้ในการปรับความหนืดของอิมัลชั่น และช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์สูตรชนิดต่างๆ เช่น โลชั่นและสเปรย์
สารให้ความคงตัว
สารให้ความคงตัวจะช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์กันแดดมีประสิทธิภาพและการทำงานคงที่
สารป้องกันแสงแดด
ผลิตภัณฑ์กันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของรังสี UV เพราะมีสารป้องกันแสงแดด สารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุ เช่น Titanium Dioxide จะสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์ ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิก เช่น Methoxydibenzoylmethane (สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิก) และ Phenylbenzimidazole Sulfonic (สารป้องกัน UVB แบบออร์แกนิก) จะช่วยดูดซับรังสีเหล่านั้น

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ