วิธีรักษาฝ้าด้วยมะนาว

เปิด 7 สูตรรักษาฝ้าด้วยสมุนไพรไทย ผิวใสไกลฝ้าด้วยมะนาว

หน้าเป็นฝ้า ปัญหาปวดใจของสาว ๆ หลายคน ด้วยกิจกรรมที่ต้องออกนอกบ้านบ่อย ๆ และซึ่งยากต่อการหลีกเลี่ยงแสงแดดที่คอยทำร้ายผิวอยู่ทุกวัน ทำให้ผิวที่เคยกระจ่างใสกลับคล้ำเสีย และเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ อย่างหนีไม่พ้น นอกจากการทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว อีกวิธีที่จะช่วยรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ และช่วยฟื้นฟูผิวให้สวยใสอย่างเป็นธรรมชาติและสามารถทำได้เองทุกวัน คือ การใช้สมุนไพรธรรมชาติรักษาฝ้า โดยใช้วัตถุดิบง่าย ๆ หาได้ในครัวอย่าง “มะนาว” ที่มีกรดผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA ที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ ถ้าอยากผิวใสไกลฝ้า มาลอง 7 สูตรดี ๆ นี้กันค่ะ

สารบัญบทความ

  • เผย 7 สูตร รักษาฝ้าด้วยมะนาว กู้ผิวสวยใสให้ไกลฝ้า
  • Tips วิธีเช็คผิวแพ้ง่าย ก่อนรักษาฝ้าด้วยมะนาว
  • คำถามที่พบบ่อย

เผย 7 สูตร รักษาฝ้าด้วยมะนาว กู้ผิวสวยใสให้ไกลฝ้า


สูตร 1 รักษาฝ้ากู้หน้าใสด้วย มะนาว น้ำผึ้ง และ สับปะรด

สูตร 1 รักษาฝ้ากู้หน้าใสด้วย มะนาว น้ำผึ้ง และ สับปะรด

สำหรับสูตรนี้ จะมีค่าเป็น AHA สูง เน้นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายเพื่อเผยผิวกระจ่างใสไร้จุดด่างดำ โดยใช้การผสม มะนาว น้ำผึ้ง และ สับปะรด ให้เข้ากัน พอกทิ้งไว้เพียง 15 นาทีแล้วล้างออก แม้จะช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่เอนไซม์ในน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มได้

สูตร 2 ผิวไกลรอยสิวด้วย มะนาว และ ขมิ้นชัน


สูตร 2 ผิวไกลรอยสิวด้วย มะนาว และ ขมิ้นชัน

สำหรับสูตรนี้ จะช่วยลดรอยฝ้า รอยดำ รอยแดงจากสิวได้ โดยทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยนำขมิ้นชันมาบดละเอียด ผสมกับน้ำมะนาวในอัตราส่วนขมิ้นชัน 3 ส่วนต่อน้ำมะนาว 1 ส่วน พอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดได้เลย

สูตร 3 ผิวไบรท์เนียนนุ่ม ด้วย มะนาว น้ำส้มคั้น โยเกิร์ต


สูตร 3 ผิวไบรท์เนียนนุ่ม ด้วย มะนาว น้ำส้มคั้น โยเกิร์ต

สำหรับสูตรนี้ จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเนียนนุ่ม ด้วยโยเกิร์ตที่มีเอนไซต์บำรุงผิวหน้าให้น่าสัมผัส โดยนำทั้ง มะนาว น้ำส้มคั้น โยเกิร์ต มาผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน พอกทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาที วิตามินซีในน้ำมะนาวและน้ำส้ม จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสไร้ฝ้ากระและจุดด่างดำ

สูตร 4 ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่น ด้วย มะนาว น้ำมันมะกอก และ เกลือ


สูตร 4 ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่น ด้วย มะนาว น้ำมันมะกอก และ เกลือ

สูตรนี้ช่วยลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ดีไม่น้อย แต่ก็ให้ความชุ่มชื้นจากน้ำมันมะกอกกลับมาด้วยเช่นกัน โดยนำน้ำมะนาว น้ำมันมะกอก อย่างละ 1 ช้อนชา ผสมกับเกลือครึ่งช้อนชา ผสมแล้วนำมาสครับใบหน้าเน้นบริเวณที่มีฝ้าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพียงเท่านี้หน้าก็จะขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว

สูตร 5 เคลียร์ฝ้าจุดด่างดำ ด้วย มะนาวสด

สำหรับสูตรนี้ทำง่ายๆ แค่มีมะนาวสด โดยฝานมะนาวออกเป็นแผ่นแล้วนำมาถูบริเวณที่มีฝ้า กระ จุดด่างดำอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพียงเดือนเดียว ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าที่กระจ่างใสขึ้น

สูตร 6 สูตรผิวใสนุ่มเด้ง ไร้จุดด่างดำ ด้วย มะนาว น้ำผึ้ง และขมิ้น


สูตร 6 สูตรผิวใสนุ่มเด้ง ไร้จุดด่างดำ ด้วย มะนาว น้ำผึ้ง และขมิ้น

เป็นอีกหนึ่งสูตรที่ช่วยลดการอักเสบของผิวด้วยขมิ้นมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวด้วย ด้วยกรด AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวจากน้ำมะนาว โดยนำน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และตามด้วยผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา สูตรนี้มีน้ำผึ้งที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้ใบหน้าใสนุ่มเด้ง

สูตร 7 สูตรผิวเนียน บ๊ายบายฝ้า ด้วย มะนาว นมจืด

สูตรสุดท้าย สูตรเอาใจสาวหน้าแห้งที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ นมจืดถือเป็นอีกส่วนผสมนึงที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ช่วยลดอาการแห้งกร้านบนใบหน้าได้ อีกทั้งกรดแลคติกในนมจืดยังช่วยลดการอักเสบของผิวได้เช่นกัน บวกกับกรดของมะนาวช่วยที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนใบหน้าออก ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น โดยใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมกับนมจืด 2 ช้อนโต๊ะ และนำแผ่นสำลีบาง ๆ จุ่มลงไปในส่วนผสมที่เตรียมไว้ แล้วนำมามาส์กหน้าในบริเวณที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออก

Tips วิธีเช็คผิวแพ้ง่าย ก่อนรักษาฝ้าด้วยมะนาว


วิธีเช็คผิวแพ้ง่าย ก่อนรักษาฝ้าด้วยมะนาว

เราสามารถเช็กผิวได้ง่ายๆ หากเกิดอาการแพ้ หากไม่มั่นใจแนะนำให้ลองทาในบริเวณท้องแขนหรือกรอบหน้าเพียงเล็กน้อย เพื่อตรวจสอบผิวดังนี้

  • สังเกตเห็นผิวหนังมีอาการแดง เป็นผื่น หรือแม้กระทั่งเป็นขุยและหยาบกร้าน
  • ความรู้สึกของผิวแพ้ง่ายมักจะแสดงออกมาผ่านอาการระคายเคือง คัน แสบตึงผิว และผิวไหม้

นอกจากนี้ยังต้องระวังช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงมากๆ เช่น กำลังตั้งครรภ์ หรือ อายุเราเพิ่มมากขึ้น ผิวในช่วงนั้นอาจจะแพ้ง่ายกว่าช่วงเวลาปกตินั่นเอง

ทั้ง 5 สูตรนี้สามารถดูแลผิวได้อย่างครอบคลุม ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหน้าพัง เพราะเป็นสูตรจากธรรมชาติล้วนๆ สามารถใช้พอกหน้าได้เป็นประจำ และอย่าลืมบำรุงผิวด้วยเซรั่มหรือครีมบำรุงผิวด้วยนะคะ ซึ่งในปัจจุบันครีมที่ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ อย่าง NIVEA Luminous 630 Advanced Dark Spot Serum สูตรใหม่! ทรีทเม้นท์เซรั่มเข้มข้นผสานไทอามิดอล (Thiamidol)  ลดเลือนฝ้าแดดและจุดด่างดำที่ฝังลึกสะสม 10 ปี ช่วยลดเลือนฝ้าได้ถึง 82% สามารถจัดการได้ทั้งจุดดำที่มองเห็น และจุดดำที่ฝังลึกอยู่ใต้ชั้นผิวได้ถึงต้นตอ หากไม่รีบจัดการตั้นแต่เนิ่น ๆ อาจกลายเป็นจุดดำฝังลึกบนชั้นผิวได้ โดยไม่เกิดผลข้างเคียง จัดการได้ลึกถึงต้นตอ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส อิ่มฟู นุ่มเด้ง เห็นผลจริงใน 2 สัปดาห์

  • สารไทอามิดอล (Thiamidol) จัดเป็นสารไบรท์เทนนิ่งที่ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินได้ หรือเรียกว่า Tyrosinase Inhibitor ทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตเม็ดสีในชั้นผิว แม้จุดด่างดำสะสมนาน 10 ปี จึงค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด
  • ผสานไฮยาลูรอนเข้มข้น 2 เท่า และวิตามินอี ฟื้นบำรุงให้ผิวดูอิ่มฟู นุ่มเด้ง อ่อนวัยขึ้นกว่าเดิม
  • ผิวหน้าดูกระจ่างใสและจุดด่างดำฝังลึกจางลง ใน 2 สัปดาห์

NIVEA LUMINOUS630 INTENSIVE TREATMENT SERUM

สมุนไพรจากธรรมชาติถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย ที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งมายาวนาน แต่การใช้สมุนไพรอย่างเดียวอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และต้องระมัดระวังเรื่องการแพ้ ทำให้ปัจจุบันการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมสมัยใหม่จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เช่น การใช้มาส์กสมุนไพรควบคู่กับ นีเวีย ลูมินัส630 แอดวานซ์ ดาร์ค สปอต เซรั่ม (NIVEA Luminous630 Advanced Dark Spot Serum) ที่มีสารไทอามิดอล (Thiamidol) ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดเลือนฝ้าแดดสะสมนาน 10 ปี และลดเลือนจุดด่างดำฝังลึกได้ถึง 82% ภายใน 7 วัน การดูแลผิวให้ห่างไกลฝ้าจึงควรผสมผสานทั้งการใช้สมุนไพรพื้นบ้าน การทาครีมกันแดดเป็นประจำ และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาและป้องกันการเกิดฝ้าใหม่

คำถามที่พบบ่อย

  1. Q: การใช้สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาวมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
    A: หากใช้สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาวไม่ถูกวิธีหรือผิวแพ้ง่าย อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ผิวแดง ผิวแห้ง ผิวลอก หรือรู้สึกแสบร้อน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะนาวในปริมาณที่เหมาะสมและทดลองใช้กับผิวบริเวณเล็กๆก่อน
  2. Q: มะนาวมีคุณสมบัติอะไรที่ช่วยในการรักษาฝ้า?
    A: มะนาวมีคุณสมบัติสำคัญในการรักษาฝ้า คือมีกรดผลัดเซลล์ผิว (AHA - Alpha Hydroxy Acid) ซึ่งช่วยในการลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าขึ้นมาแทนที่ นอกจากนี้ มะนาวยังอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. Q: หากแพ้มะนาวมีสูตรรักษาฝ้าสูตรอื่นหรือไม่
    A: หากแพ้มะนาว มีสูตรรักษาฝ้าอื่นที่สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะสูตรมะละกอสุกผสมน้ำผึ้งซึ่งเป็นทางเลือกที่ดี วิธีทำคือนำมะละกอสุกบดละเอียดผสมกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1 จนได้เนื้อครีม แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที สูตรนี้ช่วยลดรอยฝ้าและกระได้ ควรล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับผิวและเพิ่มความสดชื่น สามารถทำได้สัปดาห์ละ 3 ครั้งหรือวันเว้นวัน เป็นสูตรที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานผลไม้
  4. Q: สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาว เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่?
    A: สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาวอาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่บอบบางแพ้ง่าย เพราะมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ก่อนใช้ควรทดลองกับผิวบริเวณเล็กๆก่อน เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ หากผิวมีอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
  5. Q: ใช้สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาวบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผล?
    A: ผลลัพธ์ของการใช้สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว ประเภทของฝ้า และความสม่ำเสมอในการใช้ โดยทั่วไปอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรใช้สูตรเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและควบคู่ไปกับการดูแลผิวอื่นๆ เช่น การทากันแดด

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ