ค่า SPF คืออะไร? ทำไมจึงจำเป็นเวลาเลือกซื้อครีมกันแดด?
ค่า SPF ย่อมาจาก Sunburn Protection Factor เป็นค่าบอกความสามารถของการป้องกันแสงแดดจากรังสี UVB ตัวการร้ายที่ทำให้ผิวไหม้แดง
ปกติแล้วค่าเฉลี่ยของจำนวนนาทีที่คนเราโดนแสงแดดแล้วผิวยังไม่มีอาการไหม้ หรือแสบร้อน อยู่ที่ประมาณ 10 นาที หากเราเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 หมายถึง ผิวของเราก็จะทนแดดได้นานขึ้น 30 เท่าจากเวลาปกติที่ทนแดดได้ หากอยากรู้ว่า ครีมกันแดดตัวนี้ ปกป้องได้นานกี่ชั่วโมง ให้นำเวลา 10 นาที X 30 จะได้เวลาที่ผิวทนแดด ซึ่งเท่ากับ 300 นาที หรือ 5 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการผิวไหม้นั่นเอง ดังนั้น ยิ่งค่า SPF สูงเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้ผิวเราทนแดดได้นานขึ้นเท่านั้น
วิธีเลือก SPF ในครีมกันแดดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกิจกรรม
หลายคนมักเข้าใจว่าควรเลือกกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เพื่อให้ป้องกันแสงแดดได้ทุกสถานการณ์ แต่จริงๆ แล้วควรเลือกกันแดดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือกิจกรรมที่จะทำดีกว่า เพราะยิ่งเลือกกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็อาจมีโอกาสที่จะระคายเคืองมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย นอกจากนี้ โดยปกติแล้วเนื้อของครีมกันแดดก็จะยิ่งหนักมากขึ้นตามจำนวน SPF ที่สูงขึ้นด้วย
การเลือก SPF ในครีมกันแดดหรือเซรั่มกันแดด สามารถดูได้จากกิจกรรมที่เราทำ เพื่อปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบัน SPF จะมีกี่ระดับ เหมาะกับกิจกรรมแบบไหน ไปดูกันเลย
- ค่า SPF 8 สามารถดูดซับรังสี UVB ได้ 87.5% เหมาะกับกิจกรรมที่ไม่โดนแสงแดด เพราะไม่เพียงพอต่อระยะเวลาในการป้องกันแดดโดยตรง
- ค่า SPF 15 สามารถดูดซับรังสี UVB ประมาณ 93.3% เหมาะกับผู้ที่อยู่ในบ้าน ตึก หรืออาคาร แสงแดดอ่อนๆ ที่ไม่แรงเกินไป หากโดนแดด หน้าจะเริ่มแดงเล็กน้อย
- ค่า SPF 30 สามารถดูดซับรังสี UVB ได้ประมาณ 96.7% เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ยังมีเงาร่ม ไม่ร้อนจัดมากจนเกินไป
- ค่า SPF 45 สามารถดูดซับรังสี UVB ได้ 97.8% เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งที่เริ่มมีแสงแดดจ้า
- ค่า SPF 50 สามารถดูดซับรังสี UVB ประมาณ 98% เหมาะสำหรับกิจกรรมที่อยู่กลางแจ้ง หรือสถานที่แสงแดดแรงจัด เช่น ทะเล เป็นต้น
ค่า PA คืออะไร? แตกต่างจาก ค่า SPF อย่างไร
ค่า PA ในครีมกันแดด ย่อมาจาก Protection Grade of UVA คือ ค่าที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต UVA ทำให้ผิวของเราไม่เกิดการเหี่ยวย่น หรือเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ฝ้าแดด และลดโอกาสการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วย
ค่า PA ที่มีเครื่องหมายบวกจำนวนมาก ต่างจากจำนวนน้อยอย่างไร ไปดูกัน
- ค่า PA+ หมายถึง สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้มากกว่าผิวปกติ 2 เท่า ถือว่าป้องกันได้ในระดับน้อย เหมาะสำหรับกิจกรรมในร่ม เช่น ทำงานอยู่ภายในบ้าน อาคาร
- ค่า PA++ หมายถึง สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้มากกว่าผิวปกติ 4 เท่า ถือว่าป้องกันได้ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่แสงแดดไม่แรงมาก เช่น จ๊อกกิ๊งในยามเช้า
- ค่า PA+++ หมายถึง สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้มากกว่าผิวปกติ 8 เท่า ถือว่าป้องกันได้ในระดับที่สูงมาก เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่แสงแดดแรงจัด เช่น การไปทำกิจกรรม Outdoor ไปเดินป่า, ท่องเที่ยวเดินไกล, ไปทะเล เป็นต้น