สิวอุดตัน เกิดจากอะไร ควรป้องกันและรักษาอย่างไรดี

สิวอุดตัน เกิดจากอะไร ควรป้องกันและรักษาอย่างไรดี

ปัญหาสิวอุดตันเป็นปัญหาผิวหน้าที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีผิวมัน เมื่อรูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จะกลายเป็นสิวอุดตันที่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบได้ การแกะเกาหรือบีบสิวด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยแดง รอยดำจากสิว และในบางกรณีอาจกลายเป็นแผลจากสิวซึ่งเป็นปัญหาผิวที่รักษายาก

สิวอุดตัน คืออะไร?

สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวระยะแรกที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจากการสะสมของน้ำมัน (Sebum) เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรียภายในรูขุมขน เมื่อเกิดการอุดตัน จะทำให้เกิดการสะสมของน้ำมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดเป็นตุ่มนูนเล็กๆ บนผิวหน้า สิวอุดตันเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไปสู่สิวชนิดอื่นๆ เช่น สิวหัวหนอง สิวอักเสบ หรือสิวหัวช้าง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี

สาเหตุของสิวอุดตัน

สิวอุดตันมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการทำงานของผิวหนังและการสะสมของสิ่งต่างๆ ในรูขุมขน ดังนี้

1. ผิวหนังผลิตน้ำมันมากเกินไป

ฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

2. การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

โดยปกติ ร่างกายจะมีการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกและสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน แต่หากการผลัดเซลล์ผิวไม่สมบูรณ์ เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะสะสมในรูขุมขนและก่อให้เกิดการอุดตัน

3. แบคทีเรีย

Propionibacterium acnes (P.acnes) แบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่บนผิวหนังโดยปกติ แต่เมื่อมีการสะสมของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จะทำให้แบคทีเรียเพิ่มจำนวนมากขึ้นและก่อให้เกิดการอักเสบ

4. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน (comedogenic) อาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอุดตันได้

5. อาหาร

อาหารบางประเภท เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารแปรรูป หรืออาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง อาจกระตุ้นการเกิดสิวในบางคน

ชนิดของสิวอุดตัน

ชนิดของสิวอุดตัน

สิวอุดตันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ตามลักษณะที่ปรากฏบนผิวหน้า ดังนี้

สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedones หรือ Blackheads)

สิวอุดตันหัวเปิด หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "สิวหัวดำ" เกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่ส่วนบนของรูขุมขนยังเปิดอยู่ ทำให้อากาศสามารถเข้าถึงได้ เมื่อน้ำมันและเซลล์ผิวที่สะสมอยู่สัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้เกิดสีดำหรือสีน้ำตาลที่ปลายสิว

สิวอุดตันหัวปิด (Closed Comedones หรือ Whiteheads)

สิวอุดตันหัวปิด หรือที่เรียกว่า "สิวหัวขาว" เกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วเช่นกัน แต่ส่วนบนของรูขุมขนถูกปิดด้วยเซลล์ผิวหนัง ทำให้อากาศไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน สิวหัวขาวจึงมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ สีขาวหรือสีเนื้อ

สิวอุดตันขึ้นที่ไหนได้บ้าง?

สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก ซึ่งมักจะพบในบริเวณต่างๆ ดังนี้:

  1. ใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณจมูก คาง หน้าผาก และแก้ม ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันมากและมักจะมีความมันมากกว่าส่วนอื่นๆ ของใบหน้า
  2. หน้าอก บริเวณหน้าอกมีต่อมไขมันอยู่มาก จึงมักพบสิวอุดตันได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนหรือหลังการออกกำลังกาย
  3. หลัง เช่นเดียวกับหน้าอก บริเวณหลังมีต่อมไขมันอยู่มากและมักเกิดสิวอุดตันได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือไม่ระบายอากาศ
  4. ลำคอ บริเวณลำคอด้านหน้าและด้านหลังสามารถเกิดสิวอุดตันได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขนหรือเมื่อมีการเสียดสีจากเสื้อผ้า
  5. ต้นแขนและต้นขา บางคนอาจพบสิวอุดตันบริเวณต้นแขนและต้นขา ซึ่งมักจะมีลักษณะคล้ายกับสิวแต่ไม่อักเสบ
  6. ศีรษะ สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นบนหนังศีรษะได้เช่นกัน โดยเฉพาะในคนที่มีผมมันหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่อุดตันรูขุมขน

การเกิดสิวอุดตันในแต่ละบริเวณอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกัน เช่น สิวที่หน้าอกและหลังอาจเกิดจากการออกกำลังกายและไม่อาบน้ำทันที ขณะที่สิวบนใบหน้าอาจเกิดจากการใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขนหรือการล้างหน้าไม่สะอาด ดังนั้น การรักษาและป้องกันจึงควรปรับให้เหมาะกับแต่ละบริเวณ

วิธีป้องกันสิวอุดตันไม่ให้ขึ้นบนใบหน้า

การป้องกันสิวอุดตันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น หรือเพื่อป้องกันไม่ให้สิวอุดตันกลับมาเป็นซ้ำ วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้:

  1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว เพื่อกำจัดคราบน้ำมัน เครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันรูขุมขน
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ระบุว่า "Non-comedogenic" หรือ "ไม่อุดตันรูขุมขน" เพื่อลดโอกาสเกิดสิวอุดตัน
  3. ผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ การผลัดเซลล์ผิวช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ควรผลัดเซลล์ผิว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว
  4. หลีกเลี่ยงการแตะหรือบีบสิว การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของแบคทีเรียจากมือสู่ใบหน้า และการบีบสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบและแผลเป็นได้
  5. เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าเป็นประจำ ปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย น้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงควรเปลี่ยนปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้งและใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่ทุกวัน

9 วิธีรักษาสิวอุดตันให้ได้ผลจริง

เมื่อสิวอุดตันเกิดขึ้นแล้ว มีหลายวิธีในการรักษาให้หายหรือบรรเทาอาการ ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม การรักษาด้วยหัตถการ และการใช้ยา ดังนี้:

1. เลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับผิวเป็นสิวอุดตัน

โฟมล้างหน้าสำหรับผิวเป็นสิวช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน เช่น NIVEA Derma Acne Care Cleanser Gel to Foam (นีเวีย เดอร์ม่า แอคเน่ แคร์ เคลนเซอร์ เจล ทู โฟม) โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนสำหรับคนผิวเป็นสิวง่ายที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิด ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดสิวอุดตัน มีซีซอลต์บริสุทธิ์ ที่ช่วยจัดการแบคทีเรีย ต้นเหตุของการเกิดสิว และไนอาซินาไมด์ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และรอยดำ รอยแดงจากสิว

2. เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ

การใช้คลีนซิ่งที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผิวเป็นสิวช่วยกำจัดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด ด้วย นีเวีย เดอร์มา แอคเน่ แคร์ ไมเซลล่า (NIVEA Derma Acne Care Micellar) ที่มีส่วนผสมของซาลิซาซิก แอซิด ซีซอลท์บริสุทธิ์ 99% แมกโนเลีย คาร์นิทีน และไฮยารูลอน ช่วยทำความสะอาดเมคอัพและสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ลึกล้ำ หลังจากเช็ดเครื่องสำอาง ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสำหรับผิวเป็นสิวด้วยโฟม หรือเจลล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว

นีเวีย เดอร์มา แอคเน่ แคร์ ไมเซลล่า

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ในการรักษาสิวอุดตัน

  • กรดซาลิไซลิกเป็นกรด BHA (Beta Hydroxy Acid) ที่สามารถละลายในน้ำมันได้ จึงสามารถซึมลึกเข้าไปในรูขุมขนเพื่อกำจัดน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยลดการอุดตันและป้องกันการเกิดสิวอุดตัน
  • กรดไกลโคลิกเป็นกรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น นีเวีย เดอร์มา แอคเน่ แคร์ ไนท์ เอ็กซ์โฟลิเอเตอร์ มีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิด ไกลโคลิก แอซิด และไนอาซินาไมด์ ช่วยเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ทำให้รูขุมขนเล็กลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
  • เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ ช่วยฆ่าแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และช่วยลดการอักเสบ ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้น โดยทั่วไปมีตั้งแต่ 2.5% ถึง 10%
  • เรตินอยด์ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอยด์มีทั้งแบบที่ต้องมีใบสั่งยาและแบบที่ไม่ต้องมีใบสั่งยา เช่น อะแดพาลีน (Adapalene)

4. การรักษาสิวอุดตันด้วยหัตถการ

  • การฉีดยารักษาสิวอุดตัน การฉีดยารักษาสิวอุดตันเป็นการฉีดสารสเตียรอยด์เจือจางเข้าไปยังบริเวณสิวโดยตรง เพื่อลดการอักเสบและทำให้สิวอุดตันยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว วิธีนี้เหมาะสำหรับสิวอุดตันที่มีขนาดใหญ่และมีการอักเสบร่วมด้วย แม้ว่าจะช่วยให้สิวยุบเร็ว แต่เป็นการรักษาตามอาการและอาจมีผลข้างเคียง เช่น รอยบุ๋มหรือรอยดำได้ อีกทั้งยังไม่เหมาะสำหรับการรักษาสิวอุดตันจำนวนมาก และควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • การกดสิวอุดตัน การกดสิวอุดตันเป็นการใช้เครื่องมือกดสิวหรือมือที่สะอาดร่วมกับอุปกรณ์ปลอดเชื้อ เพื่อนำหัวสิวอุดตันออกมาโดยตรง วิธีนี้ช่วยกำจัดสิวอุดตันและลดโอกาสการพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากทำไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดการอักเสบ รอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็นได้ และควรได้รับการปฏิบัติโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา

นอกจากนี้ สิวอุดตันอาจกลับมาเกิดซ้ำได้หากไม่ดูแลผิวอย่างเหมาะสม

การรักษาสิวอุดตันด้วยหัตถการ

5. การใช้มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของดิน (Clay Mask)

มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของดิน เช่น เบนโทไนต์เคลย์ (Bentonite Clay), คาโอลินเคลย์ (Kaolin Clay), หรือดินภูเขาไฟ (Volcanic Clay) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการดูแลผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมันและมีปัญหาสิวอุดตัน ดินเหล่านี้มีคุณสมบัติในการดูดซับความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และสารพิษต่างๆ ที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมาส์กแห้ง ดินจะช่วยดึงสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกมา ทำให้รูขุมขนสะอาดขึ้น ลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ

การรักษาสิวอุดตันควรเริ่มจากวิธีที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองก่อน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีสิวอุดตันจำนวนมาก ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับสิวอุดตัน

มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสิวอุดตันมากมายที่อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลหรือทำให้อาการแย่ลง ต่อไปนี้คือความเชื่อผิดๆ ที่พบบ่อยและข้อเท็จจริง:

  1. สิวอุดตันเกิดจากความสกปรก หลายคนเชื่อว่าสิวหัวดำเกิดจากความสกปรกบนผิวหน้า แต่ความจริงแล้ว สีดำของสิวหัวดำเกิดจากการที่น้ำมันในรูขุมขนทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ไม่ได้เกิดจากความสกปรก การล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น
  2. บีบสิวอุดตันช่วยกำจัดสิวได้เร็วขึ้น การบีบสิวด้วยมือที่ไม่สะอาดหรือด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อ และแผลเป็น ควรปล่อยให้สิวหายเองหรือรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หากต้องการกำจัดสิวอุดตัน ควรไปรับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
  3. ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งช่วยรักษาสิวอุดตัน ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งเกินไปอาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นเพื่อชดเชยความแห้ง ทำให้เกิดสิวมากขึ้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันโดยไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป
  4. คนที่มีผิวแห้งไม่เป็นสิวอุดตัน แม้ว่าสิวอุดตันจะพบบ่อยในคนที่มีผิวมัน แต่คนที่มีผิวแห้งก็สามารถเป็นสิวอุดตันได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขนหรือเมื่อเซลล์ผิวตายสะสมบนผิวหน้า

สิวอุดตันเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย แต่สามารถป้องกันและรักษาได้ด้วยการดูแลผิวอย่างถูกวิธี ต้นเหตุหลักของสิวอุดตันคือการอุดตันของรูขุมขนด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม การป้องกันและรักษาสิวอุดตันที่มีประสิทธิภาพควรเริ่มจากการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและไม่อุดตันรูขุมขน และการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการจัดการความเครียด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิว

1. Q: สิวอุดตันใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะหาย?

A: สิวอุดตันใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ กว่าจะหายไปเองตามธรรมชาติ หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ อาจช่วยให้หายเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการรักษาจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของสิวและการตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล ผลิตภัณฑ์ของนีเวีย เดอร์มา แอคเน่ แคร์ สามารถช่วยลดปัญหาสิวและรอยสิวได้ภายใน 7 วัน ตามที่ระบุในผลการทดสอบ

2. Q: จะแยกแยะระหว่างสิวอุดตันและสิวชนิดอื่นได้อย่างไร?

A: สิวอุดตันมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ บนผิวหน้า โดยสิวหัวดำ (สิวอุดตันหัวเปิด) จะมีจุดสีดำที่ปลาย ส่วนสิวหัวขาว (สิวอุดตันหัวปิด) จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวหรือสีเนื้อ สิวอุดตันมักจะไม่อักเสบหรือเจ็บ ในขณะที่สิวอักเสบ เช่น สิวหัวหนองหรือสิวหัวช้าง จะมีลักษณะแดง บวม และอาจมีหนองหรือเจ็บเมื่อสัมผัส

3. Q: ควรบีบสิวอุดตันหรือไม่?

A: ไม่ควรบีบสิวอุดตันด้วยตัวเอง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อ และแผลเป็นจากสิวได้ หากต้องการกำจัดสิวอุดตัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ หรือไปรับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เช่น แพทย์ผิวหนังหรือนักเสริมความงามที่มีความเชี่ยวชาญในการกำจัดสิวอุดตันอย่างถูกวิธี

4. Q: อาหารมีผลต่อการเกิดสิวอุดตันหรือไม่?

A: อาหารอาจมีผลต่อการเกิดสิวในบางคน โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารแปรรูป และอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม และขนมขบเคี้ยว อาหารเหล่านี้อาจกระตุ้นการผลิตน้ำมันและการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิว อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของอาหารต่อการเกิดสิวจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนคุณภาพดี อาจช่วยลดการเกิดสิวได้

5. Q: สามารถใช้สกินแคร์ธรรมดาในการรักษาสิวอุดตันได้หรือไม่?

A: สกินแคร์ทั่วไปอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการรักษาสิวอุดตัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผิวเป็นสิว ซึ่งมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน เช่น กรดซาลิไซลิก กรดไกลโคลิก เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ หรือเรตินอยด์ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนีเวีย เดอร์มา แอคเน่ แคร์ เช่น โฟมล้างหน้า ไมเซลล่า เซรั่ม และไนท์ เอ็กซ์โฟลิเอเตอร์ ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรักษาปัญหาสิวและสิวอุดตัน ด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพและผ่านการทดสอบทางคลินิกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง