ไฮยาลูรอน คืออะไร ทำไมถึงเป็นส่วนผสมยอดฮิตในสกินแคร์ และใช้แบบไหนดี

เรื่องของการดูแลผิวหน้าที่นอกจากจุดด่างดำแล้ว ริ้วรอยก็เป็นอีกเรื่องที่เราป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มต้น และส่วนผสมในสกินแคร์หรือในเซรั่มต่างๆ ที่เน้นการแก้ปัญหาริ้วรอย ก็มักจะมี ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอน เป็นส่วนประกอบหลัก แต่เรารู้ไหมว่าเจ้าสารตัวนี้คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ควรใช้ตอนไหน มีข้อเสียไหม และเหมาะกับใครเป็นพิเศษไหมนะ วันนี้เรามีข้อสรุปมาให้อ่านก่อนตัดสินใจใช้ตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นจนถึงฉีดโดยคุณหมอเลย

ไฮยาลูรอนคืออะไร ต่างกับกรดไฮยาลูรอนิกไหม

เรามาเริ่มทำความรู้จักเจ้าสาร 2 ตัวนี้ก่อน ว่าที่จริงแล้วมันต่างกันไหม เริ่มจากกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) หรือ HA ก่อน ว่าเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว เป็นโมเลกุลของน้ำตาลเชิงซ้อน (Polysaccharide) จะถูกผลิตอยู่ในชั้นหนังแท้ (Demis) และหนังกำพร้า (Epidermis) ของผิวหนังเรา ทำหน้าที่ยึดจับโปรตีนคอลลาเจนไว้ด้วยกันเเละเป็นสารอุ้มน้ำ จึงช่วยให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น อิ่มฟู แต่ไม่มันและยังเป็นสารประกอบสำคัญในสารหล่อลื่นข้อต่อต่างๆ ในร่างกายด้วยนะ แต่เมื่อเราอายุเกิน 20 ปีขึ้นไป ผิวหนังจะเริ่มเสื่อมตามธรรมชาติ ทั้งกรดไฮยาลูรอนิกและคอลลาเจนเริ่มผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวเริ่มมีริ้วรอย และหย่อนคล้อยได้


ชั้นผิวแสดงคอลลาเจน, กรดไฮยาลูรอนิก, การเกิดริ้วรอย

ส่วนสารไฮยาลูรอนก็คือ กรดไฮยาลูรอนิกที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากการสังเคราะห์สารชีวโมเลกุล (Biosynthesis) จากแบคทีเรียกลุ่ม Streptococcus และ Bacillus subtilis เพื่อใช้เป็นสารทดแทนจากธรรมชาติที่ค่อยๆ ลดการผลิตลงเรื่อยๆ ตามอายุของเรา โดยสรุปแล้วก็คือ สารในกลุ่มเดียวกันนั่นเอง และในฟิลเลอร์แบบฉีดบางแบรนด์ ก็สังเคราะห์สาร Biocompatible Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid หรือ NASHA เพื่อลดอาการแพ้และมีความคงตัวสูงด้วย

Reference: https://pharmacy.msu, https://skinx.app, https://www.vsquareclinic.com


ไฮยาลูรอนมีประโยชน์อะไรมีข้อเสียจากการใช้งานหรือไม่


บำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน

ประโยชน์ของไฮยาลูรอนนั้น เน้นไปที่คุณสมบัติเด่นที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen), อีลาสติน (Elastin) ในชั้นหนังแท้ของผิวหนัง และความสามารถเด่นในการกักเก็บน้ำไว้ในผิวหนัง เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น ป้องกันการเกิดริ้วรอยเพราะสามารถอุ้มน้ำได้มากกว่า 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวสาร ป้องกันการสร้างอนุมูลอิสระ แถมยังช่วยหล่อลื่นข้อต่อกระดูก ดังนั้น ไม่แปลกใจเลยที่เป็นสารหลักที่จะผสมอยู่ในสกินแคร์ที่มีคุณภาพใช้แล้วเห็นผลจริง และมีการใช้ในการซ่อมแซมจอประสาทตาถลอกระหว่างผ่าตัดดวงตาใน FDA อเมริกาด้วย

ส่วนข้อเสียหรือข้อควรระวังในการใช้งานไฮยาลูรอนนั้น คือ การใช้ในปริมาณที่เหมาะสมทั้งแบบฉีดและทา และอาจเกิดอาการแพ้โปรตีนสังเคราะห์จากแบคทีเรียได้ในบางคน เช่น ช่วงตั้งครรภ์ และช่วงให้นมบุตร แต่โดยรวมแล้ว มีความปลอดภัยเพราะเป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบสารธรรมชาติที่อยู่ในร่างกายอยู่แล้ว


การใช้ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยาลูรอนิก

การใช้งานไฮยาลูรอนนั้นมีทั้งแบบทาในสกินแคร์ต่างๆ แบบกินที่ผสมสารสกัดต่างๆ ไปด้วย หรือแบบฉีดเข้าผิวหนังที่เห็นผลไวขั้นสุด


ไฮยาลูรอนที่ผสมในสกินแคร์

เริ่มจากแบบแรกที่ใช้ง่ายและเห็นผลได้ง่ายสุด คือ การใช้ครีมหรือเซรั่มต่างๆ ที่มีส่วนผสมของทั้ง ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยาลูรอนิก ที่เมื่อเราทาลงไปที่ผิวก็จะเห็นด้วยตาว่า ผิวเด้ง อิ่มฟู ทันตาที่เราทาเสร็จ แต่การใช้งานก็ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซี แอนด์ ไฮยา เซรั่มผิวใส หน้าเด้ง ใน 3 วัน

แบรนด์ที่กล้าเคลมครีมไฮยาลูรอนว่า หน้าเด้ง ผิวใสใน 3 วัน เรามาดูกันว่าทำไมถึงกล้าเคลมขนาดนั้น เริ่มจากส่วนผสม Hyaluronic Acid ที่มีทั้ง 3 ขนาดโมเลกุล เพื่อการทำงานของแต่ละชั้นผิวเลยทีเดียว เริ่มจากโมเลกุลขนาดใหญ่จะทำงานที่ผิวชั้นนอกสุดเพื่อให้ผิวดูโกลว์ใส โมเลกุลขนาดกลางที่จะเข้าสู่ผิวชั้นกลางที่เน้นความชุ่มชื้นและผิวกระจ่างใส สุดท้ายโมเลกุลขนาดเล็กที่จะซึมเข้าผิวชั้นในสุด ช่วยเรื่องความใสเด้งของผิวหน้า นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของวิตามินซีจากผลส้มสกัดเย็นที่ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของวิตามิน C ได้อย่างดี ทำให้ช่วยเรื่องความกระจ่างใสของผิวใน 3 วัน หน้าไม่เด้งก็ให้รู้ไป

ส่วนวิธีการใช้เซรั่มนั้น ก็ใช้ได้เป็นประจำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น แต่อย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนใช้งานจริงด้วย เพราะผิวหน้าเราบอบบาง ต้องใช้สกินแคร์แบบระมัดระวังไว้ก่อนดีกว่า

Review: Hugo Bearrry, Happy Nucha


นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซี แอนด์ ไฮยา
อาหารเสริม, น้ำมันปลา

ไฮยาลูรอนที่ผสมในอาหารเสริม

ส่วนไฮยาลูรอนแบบรับประทานนั้น ส่วนมากจะเป็นส่วนผสมในอาหารเสริม วิตามิน น้ำมันปลา หรือยาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบที่ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำจากคุณหมอในการทานไฮยาลูรอนิกแอซิดวันละ 80-200 มิลลิกรัม แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ยกเว้นการรักษาตามที่คุณหมอแนะนำ


ไฮยาลูรอนใช้เป็นสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดใต้ผิวหนัง

แบบสุดท้ายเรามักจะได้ยินกันว่า ไปฉีดฟิลเลอร์ นั่นล่ะ มีทั้งฉีดเติมเต็มริ้วรอยแต่ละจุด เช่น ร่องคิ้ว ร่องแก้ม หรือฉีดเพื่อลดใต้ตาลึกเป็นรอยคล้ำใต้ตา สารเติมเต็มที่ว่านั้นก็คือ กรดไฮยาลูรอนิก ที่สามารถย่อยสลายเองได้ 100% ใน 1-2 ปี คุณหมอควรให้เราดูขวดของผลิตภัณฑ์ก่อนฉีดด้วยว่า มี อย. ไหม เป็นยี่ห้อตามที่บอกเราไหม ขวดปิดสนิทไม่ผ่านการเปิดใช้งานมาก่อน (สำคัญมากทั้งเรื่องความสะอาดและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน เราควรต้องขอคุณหมอดูก่อนฉีดได้เลย) ส่วนปริมาณที่ฉีดก็ขึ้นอยู่กับริ้วรอยที่เรามี ขอคำแนะนำจากคุณหมอได้เลย

ส่วนการทำงานนั้น คือ การฉีดสารไฮยาลูรอนเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) แล้วคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid จะทำให้ผิวอิ่มน้ำ ฟูขึ้น ทันทีหลังฉีด การเติมเต็มด้วย Filler นั้น ทำได้ทุกส่วนของใบหน้าเลย แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ

สรุปแล้วการใช้ไฮยาลูรอนในรูปแบบสกินแคร์หรือในเซรั่มต่างๆ น่าจะเหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอย ทำให้ผิวดูเด็ก สุขภาพดี ผิวอิ่มฟู ได้แบบเห็นผลจริงและง่ายสุด แต่ถ้าใครที่เกิดร่องลึกที่คิ้วหรือร่องแก้มแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ตรงจุดที่สุด

Reference: https://skinx.app, https://vsqclinic.com


นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซี แอนด์ ไฮยา