เลเซอร์กระ รักษากระ กระแดดด้วยเลเซอร์ดีจริงไหม?

กระถือเป็นปัญหาจุดด่างดำฝังลึกบนใบหน้าที่สาว ๆ หลายคนกังวล เพราะนอกจากจะรักษาให้หายยากแล้ว ยังส่งผลต่อความสวยงามและทำให้เสียความมั่นใจในการแต่งหน้าและแต่งตัวได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะปัจจุบันมีหัตถการมากมายที่สามารถแก้ไขปัญหากระบนใบหน้าได้อย่างตรงจุด นั่นก็คือ “เลเซอร์กระ” ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมและใช้เวลาการรักษาไม่นาน

สารบัญบทความ

• เลเซอร์กระคืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยม
• ทำความรู้จัก “กระ”
• สาเหตุของการเกิดกระ
• กระมีกี่ประเภท
• เลเซอร์กระมีกี่แบบ
• วิธีเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กระ
• ขั้นตอน วิธีการเลเซอร์กระ
• วิธีดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กระ
• เลือกเลเซอร์กระแบบไหนดี ให้เหมาะกับปัญหากระ
• ข้อควรระวัง
• คำถามที่พบบ่อย

เลเซอร์กระคืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยม

เลเซอร์กระ คือ การใช้พลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง ยิงไปยังเม็ดสีเมลานินที่ก่อให้เกิดรอยกระ จุดด่างดำ ทำให้เม็ดสีเมลานินใต้ชั้นผิวเหล่านั้นแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ และถูกกำจัดออกไปโดยกระบวนการของร่างกาย ทำให้รอยกระดูจางลง และค่อย ๆ หายไป

ทำความรู้จัก “กระ”

กระ หรือ รอยกระ คือ จุดด่างดำขนาดเล็กที่มีสีน้ำตาล มักเกิดขึ้นบนใบหน้า หรือบริเวณที่สัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ เช่น แขน ขา คอ เกิดจากการที่เม็ดสีเมลานินในผิวหนังผลิตมากเกินไป ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสีเข้มกว่าบริเวณอื่น

สาเหตุของการเกิดกระ

1. แสงแดด รังสี UV จากแสงแดดถือเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เกิดรอยกระ โดยเฉพาะรังสี UVA ที่สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ลึก ทำให้เม็ดสีเมลานินผลิตมากขึ้น
2. พันธุกรรม การมีกรรมพันธุ์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเกิดรอยกระ
3. ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดรอยกระได้
4. อายุ เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ผิวจะเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้นตามไปด้วย

กระมีกี่ประเภท

กระแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดตามสาเหตุ ลักษณะ และบริเวณที่เกิด ดังนี้

1. กระตื้น (Freckle) เป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ เรียบเนียน มักพบที่โหนกแก้ม จมูก และบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย สาเหตุหลักมาจากพันธุกรรมและการทำงานผิดปกติของเซลเม็ดสี
2. กระลึก (Nevus of Hori) มีลักษณะเป็นแผ่นสีน้ำตาลเข้ม มักพบที่ขมับ ดั้งจมูก และโหนกแก้ม กระลึกมักเกิดจากความผิดปกติของเซลเม็ดสีในชั้นหนังแท้ สามารถพบได้ตั้งแต่แรกเกิด อาจถูกกระตุ้นโดยรังสี UV จากแสงแดด อีกทั้งฮอร์โมน อายุที่เพิ่มขึ้น หรือในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์
3. กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) เป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีน้ำตาล พบได้ที่ใบหน้า ลำคอ และหน้าอก สาเหตุของกระเนื้อมักเกิดจากผิวหนังชั้นกำพร้าเจริญมากผิดปกติ โดยแสงแดดและอายุที่เพิ่มขึ้นมีผลในการกระตุ้นให้กระเนื้อมีขนาดใหญ่ และจำนวนมากขึ้น
4. กระแดด (Solar Lentigines) เป็นจุดสีน้ำตาลเข้ม มีขอบชัดเจน กระแดดมักพบที่บริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น บริเวณใบหน้า โหนกแก้มที่รับแสงแดดมากกว่าจุดอื่น ๆ รวมทั้งบริเวณร่างกาย เช่น แขน ขา ที่ไม่ได้ทาครีมปกป้องแดด ส่วนใหญ่จะเป็นกับผู้ที่มีผิวขาวและอายุมาก

เลเซอร์กระมีกี่แบบ

1. Q-Switched Nd:YAG Laser
   เป็นเลเซอร์อีกชนิดหนึ่งที่ใช้ในการรักษารอยกระ โดยมีความยาวคลื่นที่สามารถทะลุลงไปทำลายเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังได้ลึก เหมาะสำหรับการรักษารอยกระลึกและรอยดำ
2. Dual Yellow Laser
   เป็นเลเซอร์ที่ใช้พลังงานแสงสีเหลืองสองความยาวคลื่น ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
3. Fractional CO2 Laser
   เลเซอร์ชนิดนี้จะสร้างรูเล็กๆ บนผิวหนัง ทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ช่วยให้รอยกระดูจางลงและผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยกระลึกและรอยแผลเป็น
4. Alexandrite Laser
   เลเซอร์ชนิดนี้มีความยาวคลื่นที่เหมาะสำหรับการกำจัดขน แต่ก็สามารถใช้ในการรักษารอยกระได้เช่นกัน โดยเฉพาะรอยกระที่อยู่ตื้นๆ

วิธีเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กระ

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กระเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

1. ปรึกษาแพทย์ แจ้งประวัติสุขภาพ บอกแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทานอยู่ และการแพ้ยาต่าง ๆ
2. หลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป อย่างสม่ำเสมอ ก่อนออกแดดประมาณ 2 สัปดาห์
3. งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, วิตามินซี ควรงดใช้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล ควรงดใช้ประมาณ 1 เดือนก่อนทำเลเซอร์
4. หลีกเลี่ยงการขัดผิว สครับผิว เพราะการขัดผิวแรง ๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองก่อนทำเลเซอร์ได้
5. งดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้ผิวบอบบาง และไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น
6. หลีกเลี่ยงการพักผ่อนน้อย การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังทำเลเซอร์

ขั้นตอน วิธีการเลเซอร์กระ

ขั้นตอนการเลเซอร์กระแบ่งออกได้ ดังนี้

• ปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและเลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
• ทำความสะอาดผิว บริเวณที่จะทำการรักษาจะถูกทำความสะอาดอย่างละเอียด
• ทายาชา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำการรักษา
• ยิงเลเซอร์ แพทย์จะใช้เครื่องเลเซอร์ยิงไปยังบริเวณที่ต้องการรักษา
• หลังทำเลเซอร์ แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลผิว เช่น การทาครีมกันแดด การหลีกเลี่ยงแสงแดด

วิธีดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กระ

การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กระเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้รอยกระหายไปอย่างรวดเร็วและผิวกลับมาดูเรียบเนียนกระจ่างใส โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลหลังทำเลเซอร์ที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่โดยหลักๆ แล้วจะมีขั้นตอนการดูแลดังนี้ค่ะ

1. งดโดนน้ำบริเวณผิวที่ทำหัตถการมาใน 24 ชั่วโมงแรก และหลีกเลี่ยงการขัดถูผิว ในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำเลเซอร์ ควรหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวหน้าแรง ๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

2. ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะหลังทำเลเซอร์ ผิวจะไวต่อแสงแดดมาก ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง

3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวระคายเคือง

• งดการแต่งหน้า ในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำเลเซอร์
• งดการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายหนักจะทำให้เหงื่อออกมาก อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
• งดการอบซาวน่า ความร้อนจากซาวน่าอาจทำให้ผิวไหม้ได้

4. บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizor) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิวหลังจากทำเลเซอร์ และเพื่อให้ปัญหากระ จุดด่างดำบนใบหน้า จางไวขึ้นสามารถใช้ครีมบำรุงที่มีสารไบรท์เทนนิ่งช่วยดูแลผิวอีกขั้น ด้วย NIVEA Luminous630 Advanced Dark Spot Serum (นีเวีย ลูมินัส630 แอดวานซ์ สปอต เซรั่ม) สูตรใหม่! ทรีทเม้นท์เซรั่มเข้มข้น ที่ผสานไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงพลังที่สุดจากนีเวีย ช่วยลดเลือนฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำที่ฝังลึกสะสมนานนับ 10 ปี ช่วยลดเลือนฝ้าได้ถึง 82% สามารถจัดการได้ทั้งจุดดำที่มองเห็น และจุดดำที่ฝังลึกอยู่ใต้ชั้นผิวได้ถึงต้นตอ หากไม่รีบจัดการตั้นแต่เนิ่น ๆ อาจกลายเป็นจุดดำฝังลึกบนชั้นผิวได้ โดยครีมทาฝ้านีเวียไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหมือนครีมลอกฝ้า หรือ ครีมทาฝ้าตัวอื่น ๆ อีกทั้งยังจัดการปัญหากระแดดได้ลึกถึงต้นตอ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส อิ่มฟู นุ่มเด้ง ชุ่มชื้นถึงขีดสุดด้วยไฮยาลูโรนิกเข้มข้นถึง 2 เท่า

5. งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้

เลือกเลเซอร์กระแบบไหนดี ให้เหมาะกับปัญหากระ

การเลือกชนิดของเลเซอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

• ชนิดของรอยกระ รอยกระแต่ละชนิดมีความลึกและสีที่แตกต่างกัน จึงต้องเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสม
• สภาพผิว ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลือกเลเซอร์ ที่อ่อนโยนต่อผิว
• งบประมาณราคาของแต่ละชนิดของเลเซอร์แตกต่างกันไป

คำแนะนำ: ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวทุกครั้งก่อนทำหัตถการเลเซอร์

ข้อควรระวัง

• เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
• เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมหลังทำเลเซอร์

เลเซอร์กระ ถือเป็นวิธีลดเลือนกระที่ใช้เวลาน้อยและเห็นผลไวที่สุด สำหรับใครที่อยากมีผิวหน้ากระจ่างใส ไร้จุดด่างดำ และรอยกระ ฉะนั้นการเลือกคลินิกและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

1. Q: เลเซอร์กระเหมาะกับใคร?
   A: เลเซอร์กระเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องรอยกระ รอยดำ ฝ้า หรือจุดด่างดำบนใบหน้า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน
2. Q: เลเซอร์กระเจ็บไหม?
   A: ก่อนทำเลเซอร์ แพทย์จะทายาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำการรักษา จึงทำให้รู้สึกเพียงความร้อนเล็กน้อยเท่านั้น
3. Q: เลเซอร์กระกี่ครั้งถึงเห็นผล?
   A: จำนวนครั้งที่ต้องทำเลเซอร์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยกระและปัจจัยอื่นๆ โดยทั่วไปจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับรอยกระที่ลึกอาจต้องทำหลายครั้งขึ้นไป
4. Q: เลเซอร์กระมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
   A: ผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังทำเลเซอร์ ได้แก่ ผิวแดง บวม อาจมีรอยไหม้เล็กน้อย แต่จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที
5. Q: เลเซอร์กระราคาเท่าไหร่?
   A: ราคาของการเลเซอร์กระขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คลินิกที่เลือก ขนาดบริเวณที่ทำ และชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ ควรสอบถามราคาจากคลินิกโดยตรง
6. Q: เลเซอร์กระอยู่ได้นานไหม?
   A: ผลลัพธ์ของการเลเซอร์กระจะอยู่ได้นานเพียงใด ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ หากดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงแสงแดด ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน