รู้ชนิดของจุดด่างดำ และรอยดำบนใบหน้าพร้อม 11 วิธีรักษาเห็นผลจริง

รู้ชนิดของจุดด่างดำ และรอยดำบนใบหน้า รักษาได้ง่ายขึ้น

ผิวที่มีจุดด่างดำ หรือรอยดำที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหน้า กลายเป็นปัญหาผิวที่หลายคนเป็นมากขึ้นในปัจจุบัน เมื่อผิวหนังเป็นจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้เราขาดความมั่นใจเอาซะง่ายๆ ทั้งยังต้องเหนื่อยเมกอัปกลบเกลื่อน หากปิดไม่เนียนก็ดูหลอกตา และหากเป็นมากๆ ขึ้น ก็จะทำให้ดูแก่ก่อนวัยอีกด้วย การแก้ปัญหาจุดด่างดำ ที่เป็นรอยดำนั้นไม่เหมือนรอยแดง เพราะต้องใช้เวลานานกว่า จะกู้และฟื้นฟูปัญหาจุดด่างดำ รอยดำจากสิว อย่างตรงจุด เราต้องเข้าใจปัญหานี้ซะก่อน

จุดด่างดำ คืออะไร

จุดด่างดำ คือ บริเวณของผิวหนังที่มีสีค่อนข้างเข้มกว่าสีผิวบริเวณรอบ ๆ การเกิดจุดด่างดำจึงพบได้ในสีผิวทุกระดับ ไม่ว่าจะผิวขาว ผิวขาวเหลือง หรือผิวสองสี เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังมากขึ้นกว่าปกตินั่นเอง ซึ่งอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน โดยไม่ได้ป้องกันด้วยครีมกันแดด จะก่อให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ ทั้งนี้ยังเกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เช่น รอยแผลถลอก รอยแผลมีดบาด รอยผื่นและรอยสิว หากเป็นสิวอักเสบหรือไปแกะกดสิว อาจเกิดเป็นรอยดำได้นั่นเอง

ประเภทและลักษณะของจุดด่างดำ

สาเหตุหลักของจุดด่างดำบนใบหน้านั้นอยู่ใกล้ตัวเรามาก แต่ประเภทของจุดด่างดำเองก็มีหลากหลายรูปแบบ แล้วจุดด่างดำของเราเป็นแบบไหน อันตรายหรือไม่ ไปสังเกตพร้อม ๆ กันเลย

ประเภทและลักษณะของจุดด่างดำ

1. จุดที่ด่างดำเกิดจากฝ้า

จุดที่ด่างดำเกิดจากฝ้านั้นไม่ได้เกิดขึ้นแค่บริเวณผิวหน้าเท่านั้น แต่เกิดในบริเวณที่ร่างกายสัมผัสแสงแดดอีกด้วย เรามักจะเห็นว่าบริเวณหน้าผาก แก้ม จมูก และโหนกแก้มนั้น มักจะเป็นฝ้ากว่าส่วนอื่น บางคนขึ้นบริเวณแขน หน้าอกก็มี ฝ้ามักจะมาในอายุ 30-40 ปี

ลักษณะของฝ้า คือ รอยชัดเป็นปื้นสีไปทางน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม อยู่เป็นกระจุกรวมตัวกัน

จุดที่ด่างดำเกิดจากฝ้า

2. จุดด่างดำที่เกิดจากกระ

จุดที่ด่างดำเกิดจากกระ ส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีผิวขาว เห็นเป็นจุดชัด มักขึ้นในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น โดยสาเหตุหลักมาจากการไม่ดูแลตัวเอง เจอแดดและมลภาวะ บางคนก็เกิดจากกรรมพันธ์ุ

ลักษณะของกระ คือเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายทั่วใบหน้า โดยเฉพาะแก้มและหน้าผาก

จุดด่างดำที่เกิดจากกระ

3. จุดด่างดำจากสิว

จุดด่างดำจากสิว หรือ รอยดำจากสิว ส่วนมากจะเป็นรอยแผลดำตามสิวที่อักเสบ เกิดจากการกด แกะ จนเป็นรอย เมื่อแผลตกสะเก็ด จึงเกิดเป็นรอยดำคล้ำที่เข้มกว่าบริเวณอื่น

ลักษณะรอยดำจากสิว คือ จะมาจากที่เกิดสิวชนิดต่างๆ แล้วเกิดการอักเสบ มีการกดแกะทำให้บริเวณนั้นช้ำยิ่งขึ้น เกิดเป็นจุดสีเข้ม แม้จะตกสะเก็ดก็ยังทิ้งรอยไว้

4. จุดด่างดำจากการอักเสบ

จุดด่างดำ หรือ รอยดำหลังการอักเสบ (PIH - Post-Inflammatory Hyperpigmentation) เป็นผลพวงจากการอักเสบของผิว เช่น สิวอักเสบ, ผื่นแพ้, รอยแผล หรือรอยแกะเกา เมื่อผิวเกิดการอักเสบ เซลล์ผิวจะปล่อยสารกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีผลิตเมลานินออกมามากกว่าปกติ

ลักษณะรอยดำจากการอักเสบ คือ ส่วนมากจะเป็นรอยราบสีน้ำตาลไปจนถึงสีดำคล้ำ เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ผิวเคยมีการอักเสบมาก่อน

5. จุดด่างดำจากแสงแดด

จุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดด เราจะเรียกว่า กระแดด (Solar Lentigo หรือ Age Spots) เกิดจากการที่ผิวได้รับ รังสี UV จากแสงแดดสะสมเป็นเวลานาน มักพบบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม, หลังมือ, และแขน

ลักษณะของกระแดด คือ จุดราบสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม มีขอบเขตชัดเจน มักมีขนาดแตกต่างกันไป

สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า

สาเหตุหลัก ๆ คงหนีไม่พ้นการเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะ โดยที่เราไม่ได้ปกป้องผิวอย่างเต็มที่ รวมไปถึงอายุและฮอร์โมนที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย แต่ละสาเหตุจะก่อให้เกิดจุดด่างดำได้อย่างไร เรามีคำตอบ

1. แสงแดดและรังสี UV

รังสี UV หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต นอกจากสามารถพบในแสงแดดทั่วไปแล้วยังเจอได้ในแสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ที่เราทำงานทุกวัน หากรับแสงแดดมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดรอยดำคล้ำ ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่ไปกระตุ้นเม็ดสีมากขึ้นผิดปกติ ผิวคุณจึงดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส เกิดปัญหาจุดด่างดำตามมาในที่สุด

2. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเราเกิดปัญหาจุดด่างดำ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย จะมีส่วนทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายได้ ลองสังเกตว่าช่วงนี้คุณมีภาวะอะไรหรือไม่ เช่น ภาวะความเครียด ภาวะการตั้งครรภ์ หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือน

3. การผลัดเซลล์ผิวช้าลง เสื่อมสภาพไวขึ้น

สำหรับการผลัดเซลล์ผิวนั้น คือการขจัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุดออกไป ในตอนที่เรายังเด็กแผลจะหายไวมาก ต่างจากเมื่ออายุมากขึ้น ทั้งเรื่องมลภาวะ การทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ ก่อให้ประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิวลดลง การสร้างเซลล์ผิวใหม่ช้าขึ้น ปัญหาทั้งจุดด่างดำ ความมัน จึงยังคงหลงเหลืออยู่

11 วิธีป้องกัน รักษาจุดด่างดำ ให้เห็นผลจริง

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า

การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว ซึ่งสิวเป็นต้นตอของการเกิดจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง จากสิวได้ เนื่องมือของเรามีแบคทีเรียเป็นจำนวนมาก เมื่อสัมผัสบริเวณใบหน้าแล้วจะทำให้แบคทีเรียเหล่านี้เข้าสู่ผิวหนังหรือผิวหน้าได้ ก่อให้เกิดการอักเสบ เกิดสิว และทำให้จุดด่างดำเข้มขึ้น ฉะนั้นการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ จึงเป็นวิธีที่จำเป็นในการดูแลผิวให้สะอาดและป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ ได้

รับประทานอาหารและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

2. รับประทานอาหารและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

เลือกทานอาหารหรือวิตามินที่มีประโยชน์ จะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวภายในสู่ภายนอก ยังคงแนะนำให้ทานผักผลไม้อย่าง มะเขือเทศ ผักใบเขียว พืชตระกูลเบอร์รี่ พืชตระกูลส้ม แอปเปิ้ลเขียว น้ำมันปลา มะขามป้อม แตงกวา และพืชตระกูลถั่ว เป็นต้น จะช่วยให้รอยฝ้า กระ จุดด่างดำ บนใบหน้าของคุณค่อย ๆ จางลงได้อย่างเห็นผล

สมุนไพร ทางเลือกเพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

3. สมุนไพร ทางเลือกเพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

หลาย ๆ คนนิยมนำสมุนไพรมารักษาจุดด่างดำ เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมันละหุ่ง มะรุม มะนาว มะละกอ และขมิ้น วิธีลดรอยสิว หรือจุดด่างดำเหล่านี้เป็นสูตรธรรมชาติที่หาได้ทั่วไป

4. การดูแลจุดด่างดำด้วย Peeling

อีกวิธีในการรักษาจุดด่างดำ คือการผลัดเซลล์ผิว โดยใช้หลักการให้เซลล์หนังกำพร้าหรือเซลล์ผิวชั้นนอกหลุดออกไป ทำให้รอยดำดูลดเลือนลง ผิวใหม่เกิดขึ้นอย่างสว่างกระจ่างใส

การรักษาจุดด่างดำด้วย IPL

5. การรักษาจุดด่างดำด้วย IPL

สำหรับวิธีนี้ถือเป็นทางลัดเร่งด่วนที่หลายคนนิยมไม่น้อย โดยการใช้พลังงานแสงที่มีความยาวคลื่น 530-560 นาโนเมตร เข้าช่วยลดเม็ดสี ทำให้จุดด่างดำค่อย ๆ จางลงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอย กระ หรือ รอยจุดด่างดำจากการอักเสบของผิวหนัง

บำบัดผิวด้วยความเย็น หรือ Cryotherapy

6. บำบัดผิวด้วยความเย็น หรือ Cryotherapy

การใช้เครื่องพ่นไนโตรเจนเหลวหรือคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอุณหภูมิต่ำ เข้าไปในจุดที่ต้องการรักษา เพื่อทำให้เซลล์ผิวตาย พร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ ช่วยรักษาจุดด่างดำ รอยแผลเป็นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

7. ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมรักษาจุดด่างดำ

สำหรับคนที่มีปัญหาผิวอย่าง ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว ควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมกับการยับยั้งการเกิดเม็ดสี และ ช่วยให้จุดด่างดำ รอยดำจากสิว ดูจางลงพร้อมบำรุง ควรมองหาสารสำคัญดังนี้

  • เรตินอยด์ (Retinoids): เช่น Retinol ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยดำที่อยู่ชั้นบนจางลงเร็วขึ้น
  • วิตามินซี (Vitamin C): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • กรด อย่าง Azelaic Acid และ Niacinamide ช่วยลดการอักเสบและลดเลือนรอยดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สารยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitors): เป็นกลุ่มสารที่จัดการปัญหาได้ตรงจุดที่สุด เพราะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ที่เป็นต้นตอการสร้างเม็ดสีโดยตรง สารที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพสูงคือ

Thiamidol (สารเอกสิทธิ์เฉพาะของนีเวีย) ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดเลือนฝ้าแดดและจุดด่างดำฝังลึกได้ถึงต้นตออย่างปลอดภัย พบได้ใน นีเวีย ลูมินัส630 สกิน โกลว์ เซรั่ม (NIVEA Luminous630 Skin Glow Serum ) เซรั่มสูตรนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมอบผลลัพธ์แบบ 2-in-1 คือไม่เพียงแต่ช่วยลดเลือนฝ้าแดดและจุดด่างดำฝังลึกถึงต้นตอ แต่ยังผสานพลังของ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู นุ่มเด้ง ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่จุดด่างดำที่จางลง แต่ยังช่วยให้ผิวโดยรวมดูกระจ่างใส เปล่งประกาย มีออร่า

นีเวีย ลูมินัส630 สกิน โกลว์ เซรั่ม

8. ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ

ควรเลือกกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ขึ้นไปจะดีที่สุด ทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้วและหมั่นเติมระหว่างวัน เช่น ทาตอน 7 โมงเช้า อีก 2-3 ชั่วโมงถัดมา ก็ทาเติมทับเข้าไปอีก ในจุดที่คิดว่าจะโดดแดดเป็นพิเศษ เช่น โหนกแก้ม สันจมูก เป็นต้น อย่าง นีเวีย ลูมินัส630 เดลี่ มอยส์เจอไรเซอร์ ไลท์ ครีม SPF50 PA+++ (NIVEA Luminous630 Daily Moisturizer Light Cream SPF50 PA+++) ครีมบำรุงผสมสารกันแดด ที่มาพร้อม SPF50 PA+++ สามารถป้องกันรังสี UVA/UVB สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ และฝ้าแดดได้ อีกทั้งยังเป็นสูตรเฉพาะสำหรับคนมีปัญหาจุดด่างดำ และฝ้าแดด พร้อมลดการเกิดซ้ำได้อีกด้วย สูตร Oil Control สามารถทา 2 ข้อนิ้วได้ ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ คุมความมันตลอดวัน

นีเวีย ลูมินัส630 เดลี่ มอยส์เจอไรเซอร์ ไลท์ ครีม SPF50 PA+++

9. หยุดการแคะ แกะ เกา ที่ผิว

เลี่ยงการแคะ แกะเกาที่ผิว เพราะการกระทำเหล่านี้จะทำให้ผิวอักเสบมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดรอยแดง รอยดำ และอาจทำให้แผลติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ทำให้จุดด่างดำมีโอกาสที่จะเข้มขึ้นและหายช้าลงได้

10. ปกป้องผิวด้วยการแต่งกายอย่างมิดชิด

การแต่งกายอย่างมิดชิดเป็นวิธีป้องกันจุดด่างดำที่ง่ายและประหยัดที่สุด เพราะสามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดจุดด่างดำได้ เพียงสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกกันแดด หรือพกร่มกันแดด เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดการสัมผัสแสงแดดและความร้อนที่กระตุ้นการผลิตเมลานินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

11. เลเซอร์ รักษาจุดด่างดำถึงต้นตอ

ใช้เลเซอร์ในการรักษาอย่าง Picosecond Laser เป็นเลเซอร์ที่เหมาะกับการรักษาเม็ดสีหลากหลายชนิด เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานด้วยความเร็วสามารถทำลายเม็ดสีให้แตกละเอียดโดยไม่ทำลายผิวโดยรอบ เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาผิวอย่าง ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว พร้อมช่วยกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวสวย สุขภาพดี

บทสรุป

ปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้าจะไม่ใช่ปัญหาหนักใจของสาว ๆ อีกต่อไป หากเข้าใจถึงต้นเหตุและวิธีรับมือที่ถูกต้องและตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน การเลือกครีมที่มีส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่ปลอดภัย รวมไปถึงการเลือกอาหารการกิน ไปจนถึงการดื่มน้ำตามปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน เพียงเท่านี้ก็มีผิวที่สวยใสสุขภาพดี ไกลจุดด่างดำได้แล้ว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจุดด่างดำ

1. Q: จุดด่างดำสามารถหายไปเองได้หรือไม่?

A: จุดด่างดำบางชนิด เช่น รอยดำจากสิว อาจจางลงได้เองเมื่อเวลาผ่านไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุของจุดด่างดำ หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว จำเป็นต้องได้รับการรักษาและป้องกันอย่างเหมาะสม

2. Q: การรักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติ ได้ผลจริงหรือไม่?

A: วิธีธรรมชาติบางอย่างอาจช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้บ้าง แต่ประสิทธิภาพ อาจไม่เทียบเท่าผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยทางการแพทย์ การใช้วิธีธรรมชาติควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

3. Q: จุดด่างดำสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่ หลังการรักษา?

A: จุดด่างดำสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการป้องกันที่ดี เช่น ไม่ใช้ครีมกันแดด หรือยังคงสัมผัสกับปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดจุดด่างดำ การดูแลผิวอย่างต่อเนื่องและการป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผลลัพธ์ในระยะยาว

4. Q: อาหารหรือวิตามินอะไรบ้าง ที่ช่วยลดจุดด่างดำได้

A: อาหารและวิตามินที่ช่วยลดจุดด่างดำประกอบด้วยผักและผลไม้หลากหลายชนิด เช่น มะเขือเทศ ผักใบเขียว พืชตระกูลเบอร์รี่ และพืชตระกูลส้ม ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ แอปเปิ้ลเขียวและแตงกวามีสารต้านอักเสบ ในขณะที่น้ำมันปลาให้กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีประโยชน์ต่อผิว มะขามป้อมเป็นแหล่งวิตามินซีธรรมชาติที่เข้มข้น และพืชตระกูลถั่วให้โปรตีนและวิตามินอี การรับประทานอาหารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้จุดด่างดำค่อยๆ จางลงอย่างเห็นผล

5. Q: ความเครียดมีผลต่อการเกิดจุดด่างดำหรือไม่?

A: ความเครียดอาจส่งผลทางอ้อมต่อการเกิดจุดด่างดำ โดยทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิดปกติ นอกจากนี้ ความเครียดยังอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ส่งผลให้ผิวไวต่อการเกิดปัญหามากขึ้น

เคล็ดลับที่น่าสนใจสำหรับคุณ