ดูยังไง หาคำตอบ ฝ้า กระ จุดด่างดำ

ฝ้า กระ จุดด่างดำ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

ใครแยกไม่ออก มากองกันตรงนี้

ก่อนอื่น บางคนอาจจะมีคำถามว่า ทำไมเราถึงต้องแยกให้ออกว่า อันไหนกระ อันไหนฝ้า อันไหนจุดด่างดำ ที่ต้องแยกให้ออก ก็เพราะว่า..เราจะได้ดูแลรักษาใบหน้าของเราให้สว่าง กระจ่างใส ได้อย่างตรงจุด และเพื่อผลลัพท์ที่ดีที่สุดนั่นเอง คือบางทีเราเป็นฝ้า แต่ดูไม่ออก คิดว่าตัวเองเป็นกระ จะรักษายังไงก็ไม่หาย เพราะมัวแต่ไปรักษากระอยู่ ฝ้าก็เลยไม่หายสักที ดังนั้นนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรแยก ฝ้า กระ และจุดด่างดำให้ออกเสียก่อน

 

สารบัญบทความ

  • วิธีง่ายๆ ในการดูว่า อันไหนฝ้า อันไหนกระ อันไหนจุดด่างดำ
  • ฝ้าคืออะไร ฝ้าเกิดจากอะไร
  • กระคืออะไร กระบนใบหน้าเกิดขึ้นได้อย่างไร
  • จุดด่างดำ คือ
  • วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ

วิธีง่ายๆ ในการดูว่า อันไหนฝ้า อันไหนกระ อันไหนจุดด่างดำ


อะไรคือฝ้า อะไรคือกระ

ฝ้าคืออะไร? ฝ้าเกิดจากอะไร?

“ฝ้า” ภาษาอังกฤษ เรียกว่า melasma หรือ เมลาสมา ดูง่ายๆ คือ จะเป็นแผ่นๆ ปื้นๆ มีหลายขนาด หลายรูปร่าง หลายสี ตั้งแต่เข้มจนไปถึงอ่อนๆ จางๆ ขึ้นอยู่กับว่าฝ้านั้นเกิดขึ้นที่ผิวหนังชั้นไหน หนังแท้ หรือหนังกำพร้า ถ้าฝ้าแบบตื้น ก็จะอยู่ในชั้นหนังกำพร้า ฝ้าแบบลึก จะเกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ จะมีสีน้ำตาลผสมเทาเข้ม รักษาหายยากกว่าฝ้าแบบตื้น และยังมีอีกแบบ คือ ฝ้าแบบผสม ซึ่ง เป็นทั้งแบบตื้นและลึก ผสมกันกระจายกันไปทั่วทั้งใบหน้า ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของการเกิดฝ้านั้นก็คือรังสี UV ที่เราได้รับในทุกๆ วันนี่แหละ เนื่องจากเมื่อผิวเราได้รับรังสี UV มากขึ้น เม็ดสีเมลานินที่อยู่บนหน้าเราก็จะถูกผลิตเยอะขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดฝ้าที่มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้มขึ้นมา
แต่นอกจากรังสี UV แล้ว ฝ้าก็ยังเกิดได้จากความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ เช่น ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์บางคน อยู่ๆ ก็อาจมีฝ้าเกิดขึ้นมาได้ ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย หรือแม้แต่เครื่องสำอางและครีมทาหน้าบางประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี หรือฮอร์โมนก็อาจส่งผลให้เกิดฝ้าได้ด้วยเช่นกัน

 

กระคืออะไร? กระบนใบหน้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?


กระ (freckles) จะเป็นจุดเล็กๆ กลมๆ มีขอบชัดเจน กระจายอยู่ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะแก้ม และหน้าผาก บางคนอาจขึ้นบริเวณลำคอ แขน ขา โดยสีของกระจะมีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้มชัด ซึ่งสามารถแบ่งได้ 4 ชนิดคือกระตื้น กระลึก กระเนื้อ และกระแดด แต่ละชนิดจะเป็นอย่างไร สามารถสังเกตได้ดังนี้

      1. กระตื้น ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักขึ้นบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง ส่วนมากเกิดจากกรรมพันธ์ ทำให้เซลล์เม็ดสีไวต่อแดด ควรปกป้องด้วยครีมกันแดด เพื่อลดการขยายเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด

      2. กระลึก ลักษณะเป็นจุดเล็กๆ หรือแผ่นสีน้ำตาล เทา ดำ ขอบไม่ชัด มักขึ้นที่โหนกแก้ม ดั้งจมูก และขมับ เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีบริเวณชั้นหนังแท้ หากเป็นช่วงวัยรุ่นหรือช่วงตั้งครรภ์อาจเห็นชัดขึ้น

      3. กระเนื้อ ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม ขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก หลัง เกิดจากผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเจริญเติบโตกว่าปกติ จะถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดและอายุที่มากขึ้น

      4. กระแดด ลักษณะเป็นจุดหรือปื้นเรียบๆ มีสีน้ำตาลหรือสีดำขนาดเล็กและขอบชัด มักเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ที่มีผิวขาวและมีอายุมาก

เพราะฉะนั้น กระ กับ ฝ้า จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ ฝ้า จะมีลักษณะเป็นปื้นและมีขนาดใหญ่กว่า ขณะที่ กระ จะเป็นจุดกลมๆ เล็กๆ มีขอบชัดเจน มีสาเหตุหลักๆ มาจากพันธุกรรม ถ้าพ่อแม่เป็น ส่วนใหญ่ลูกจะเป็น โดยเฉพาะคนที่มีผิวขาว มักจะเป็นกระมากกว่าคนผิวสีเข้ม รวมไปถึงการรักษาฝ้าและกระนั้น จะมีวิธีการที่แตกต่างกัน ต้องอาศัยต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ ในการวิเคราะห์เม็ดสี วิเคราะห์ลักษณะของผิว เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ทำให้ฝ้าและกระจางลง และที่สำคัญคือ ต้องไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น (ด่างขาว) ในเม็ดสีฝ้า หรือ กระ ด้วย 

จุดด่างดำ dark spot

จุดด่างดำ คือ

ส่วนจุดด่างดำ หรือ dark spot คือ รอยอักเสบที่เกิดจากการเป็นสิว ยิ่งเราแกะสิวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอักเสบมากขึ้นเท่านั้น เมื่อยิ่งอักเสบ ผิวบริเวณนั้นจะเปลี่ยนจากรอยแดงเป็นรอยดำ เมื่อเป็นสิวจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง หรือเข้ารับการรักษากดสิวและรักษารอยสิวจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะกว่าจุดด่างดำจะจางลงนั้น จะใช้เวลาในการผลัดเซลล์ผิวมากถึง 28 วันหรือมากกกว่านั้นเมื่ออายุมากขึ้นได้

จะเห็นได้ว่าจุดด่างดำ ฝ้า กระ บนใบหน้าเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะเป็น“กระ” หรือเป็น “ฝ้า” หรือ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ ต่างก็มีตัวกระตุ้นสำคัญที่เหมือนกันนั่นก็คือ UV ในแสงแดด ทั้งสิ้น จึงควรดูแลผิวหน้าตั้งแต่วันนี้ ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หรือไปหาหมอเพื่อปรึกษาและทำการรักษาอย่างถูกต้องจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นอาจเจอครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ที่เห็นผลในช่วงแรกและกลับมาเป็นซ้ำอีกได้

ปัจจุบันวิธีรักษาจุดด่างดำ และลดเลือนจุดด่างดำนั้นมีมากมาย ตั้งแต่การมาสก์หน้าด้วยสมุนไพรไทย การใช้ครีมรักษาฝ้ากระ และการเข้ารักษาด้วยเลเซอร์ เพื่อจัดการรอยดำกวนใจ แต่เมื่อรักษาแล้วสิ่งสำคัญคือการดูแลหลังกระฝ้าจางไม่ให้เกิดซ้ำหากไม่อยากหน้าเป็นฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ ผิวคล้ำเสีย ก็ต้องหลีกเลี่ยง UV ในแสงแดด ซึ่งวิธีหลีกเลี่ยงแสงแดดที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ การทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น และต้องมี PA+++ ที่ป้องกันรังสี  UVA และ UVB รังสีอัลตาไวโอเลตที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับผิว ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ และโรคผิวหนังอื่นๆ เพราะฉะนั้นควรปกป้องผิวจากรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ยิ่งบวกเท่าไหร่ ก็ยิ่งป้องกันได้มากขึ้นเช่นกัน

วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ

แต่..สำหรับคนเป็นฝ้า แค่ทาครีมกันแดดทั่วไปอาจไม่เพียงพอ ถ้าอยากให้ฝ้าจางหาย ต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีสารยับยั้งเอนไซน์ไทโรซิเนส ที่เป็นต้นกำเนิดของการเกิดฝ้าด้วย เนื่องจากในผิวหนังของเราจะมีเมลานิน ซึ่งผลิตมาจากเมลาโนไซต์ และเม็ดสีเหล่านี้จะมีสีเข้มขึ้นโดยเอนไซน์ไทโรซิเนส หากถูกกระตุ้นจาก UV มากๆ เข้า จะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นสีคล้ำกว่าปกติ จนเกิดเป็น “ฝ้า” ในที่สุด 

ดังนั้น..ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับคนเป็นฝ้าต้องยกให้...นีเวีย ลูมินัส630 สปอตเคลียร์ ซันโพรเทค เอสพีเอฟ 50 PA+++ (NIVEA LUMINOUS630 SUN PROTECT SPF50 PA+++) ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวหน้าของเราจากรังสี UVA และUVB ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด SPF50 และ PA+++ และที่ครีมกันแดดตัวอื่นไม่มี แต่นีเวียมี คือ ลูมินัส 630 (LUMINOUS630) อนุพันธ์บริสุทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเสถียรที่สุด ซึ่งจะช่วยยับยั้งเอนไซน์ไทโรซิเนส อันเป็นจุดกำเนิดของการเกิดฝ้าได้ จึงสามารถปกป้องกันฝ้าแดดเกิดใหม่ได้เป็นอย่างดี ฝ้าแดดจะค่อยๆ จางหาย จุดด่างดำลดเลือน ผิวหน้าจะกลับมาเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ครบจบทุกความสวยในขวดเดียว

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ