สาเหตุรอยดำจากสิว วิธีรักษารอยดำจากสิวให้หายขาด

สาเหตุรอยสิว วิธีรักษารอยดำจากสิวอย่างไรให้หายขาด

ปัญหารอยสิวเป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจให้หลายคน โดยเฉพาะปัญหาริ้วรอยจากสิวนั้นมีทั้งรอยแดง รอยดำ รวมถึงรอยแผลเป็นจากสิวด้วย ซึ่งรอยดำจากสิวเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะรอยดำจากสิวดูแลรักษายากและต้องใช้เวลานานมากกว่ารอยสิวอื่น ๆ

สารบัญบทความ

  • ประเภทของรอยสิว
  • รอยดำจากสิว เกิดขึ้นจากสาเหตุใด ?
  • 7 วิธีรักษารอยสิว รอยดำจากสิว ให้หายจริง
  • วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำจากสิว

ประเภทของรอยสิว

1.รอยดำจากสิว

รอยดำจากสิว (Post – Inflammatory Hyperpigmentation) เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากการอักเสบและการระคายเคืองของผิวหนัง โดยการอักเสบนี้จะไปกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตเมลานินในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังผลิตเมลานินมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดรอยดำได้ สำหรับรอยดำจากสิวสามารถแบ่งเป็นรอยได้หลายสี เช่น สีดำ สีน้ำตาล หรือสีเทา การเกิดรอยดำเป็นการอักเสบในชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งการรักษารอยดำจากสิวจะใช้เวลานานและยากกว่ารอยแดง

2.รอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิว (Post – Inflammatory Erythema) เป็นรอยที่มีทั้งสีแดง ชมพู รวมถึงสีม่วง ซึ่งเกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เมื่อผิวหนังเกิดอาการอักเสบ ร่างกายจะพยายามฟื้นฟูตัวเอง โดยการลำเลียงเลือดไปยังบริเวณผิวหนังที่อักเสบเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้บริเวณที่เป็นสิวอักเสบเกิดการขยายตัวของหลอดเลือดที่อยู่ภายใต้ผิวหนัง ส่งผลให้บริเวณที่อักเสบเป็นรอยแดง

3.รอยหลุมสิว

รอยหลุมสิว (Atrophic Scars) คือ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการการรักษาแผลบริเวณที่เป็นสิว โดยร่างกายจะสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อขึ้นมาเพื่อสมานแผล แต่บางครั้งไม่เพียงพอที่จะทำให้ผิวหนังกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม เพราะเกิดการบาดเจ็บในชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป

รอยดำจากสิว เกิดจากสาเหตุอะไร

รอยจำจากสิวที่เกิดจากสิวอุดตัน เป็นการอุดตันบริเวณต่อมไขมันและเกิดภาวะการอักเสบ เมื่อการอักเสบรุนแรงขึ้นรวมไปถึงติดเชื้อแบคทีเรียจนสิวกลายเป็นตุ่มแดง (สิวอักเสบ) และตุ่มหนอง หากการอักเสบลุกลามมากขึ้นจะกลายเป็นไตแข็งบวม โดยการอักเสบนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของเมลาโนไซต์ (Melanocytes) ซึ่งมีทำหน้าที่ผลิตเมลานิน ทำให้เกิดการผลิตเมลานินมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดรอยดำจากสิวได้ หากปล่อยไว้นานโดยไม่ทำการักษาอย่างถูกวิธีจะทำให้รอยดำจากสิวรักษาได้ยากขึ้น

7 วิธีรักษารอยสิว รอยดำจากสิวให้หายจริง

1. ทาครีมลดรอยดำจากสิว

 

ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ เช่น วิตามินซีที่ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเร่งการสมานแผล ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) หรือวิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการอักเสบ ลดการเห่อของสิวหนอง (Cystic Acne) และซาลิไซลิค แอซิด (Salicylic Acid) ที่ช่วยป้องกันการอุดตันของสิว ลดการอักเสบและรอยแดง อย่างนีเวีย ลูมินัส630 โพสต์ แอคเน่ มาร์ค เซรั่ม (NIVEA LUMINOUS630 POST-ACNE MARKS SERUM) เซรั่มสูตรพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและรอยสิวโดยเฉพาะ ด้วย 3 พลังทริปเปิ้ลแอคชัน ช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวฝังลึก บำรุงผิวให้เรียบเนียนและควบคุมความมันบนใบหน้าที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เซรั่มเจลสีเขียว ด้วยสารสกัดจากชาเขียว เนื้อบางเบา คุมมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทุกวันเช้า-เย็น ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ใน 2 สัปดาห์ 

2. ใช้น้ำมะนาวช่วยลดรอยดำสิว

 

น้ำมะนาวช่วยลดรอยดำสิว

มะนาวมีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีนี้เป็นส่วนผสมที่ขึ้นชื่อเรื่องช่วยลดความหมองคล้ำและอุดมไปด้วยกรด AHA ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยดำจากสิว และเพิ่มความกระจ่างใส และช่วยลดการอุดตันของสิว

3. สครับหน้าลดจุดด่างดำสิว

การสครับหน้าช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก ช่วยจุดด่างดำให้ผิวมีความสม่ำเสมอกันมากขึ้น ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว ให้ความชุ่มชื้น และลดการระคายเคืองได้ เช่น น้ำตาลทรายแดงหรือโยเกิร์ต และควรทำเพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์

4. การเลเซอร์ผิว

การเลเซอร์เป็นวิธีการดูแลรักษารอยดำจากสิว แพทย์จะใช้เครื่องมือเลเซอร์ยิงเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อลดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของรอยดำจากสิว และจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยปกติแล้วแสงเลเซอร์จะรักษารอยสิวที่ผิวหนังชั้นบนและผิวหนังกลาง โดยจะไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดใหม่ เพื่อมาทดแทนรอยแผลเดิม วิธีรักษารอยดำจากสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่รู้สึกเจ็บ แต่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

5. การฉีดเมโสหน้าใส

เป็นการฉีดตัวยาที่มีวิตามินที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์เข้าสู่ผิวชั้นกลาง (Dermis) ประกอบไปด้วยคอลลาเจน อิลาสตินและเนื้อเยื่อต่างๆ ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว และช่วยลดเลือนรอยดำจากสิว

6. ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี

เป็นใช้สารเคมีช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป โดยผิวที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะมีลักษณะเรียบเนียนและมีสุขภาพดีกว่าเดิม วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหารอยดำจากสิวเพราะเห็นผลทันที แต่ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง

7. การทำ Hifu ลดรอยสิว

การทำ Hifu ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ไม่เพียงแต่ช่วยลดแดงลดรอยดําจากสิวโดยตรง แต่จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง มีน้ำมีนวลและชุ่มชื้นมากขึ้น โดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นโดยตรง นอกจากช่วยเรื่องคุณภาพผิวแล้วยังช่วยเรื่องการกระชับผิวและปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายในด้วย

 

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำจากสิว

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำจากสิว

วิธีที่ 1 ไม่แคะ แกะ หรือบีบสิว

การบีบสิวหรือแกะสิว เป็นการไปกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากขึ้น และหากมือหรือใช้อุปกรณ์ไม่สะอาดอาจทำให้เพิ่มโอกาสในการอักเสบของสิวจนเป็นสาเหตุของการเกิดหลุมสิวและรอยดำจากสิวได้

วิธีที่ 2 เลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่แรงเกินไป

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์แรงหรือการขัดถูผิวที่อักเสบมากเกินไป จะกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดอาการอักเสบมากขึ้น  และหลังจากสิวอักเสบหายแล้ว อาจเกิดเป็นหลุมสิวหรือรอยดำจากสิวได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษารอยสิวหรือลดรอยสิวโดยเฉพาะ

วิธีที่ 3. ปกป้องผิวจากแสงแดด

เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพราะแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดรอยดำจากสิวมากขึ้น

วิธีที่ 4. ไม่ควรปล่อยให้ผิวแห้ง

การปล่อยให้ผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ ทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวอุดตันและรอยดำจากสิวได้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน 1.5-2 ลิตร และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเพื่อป้องกันการเกิดรอยดำจากสิว

การรักษารอยดำจากสิวขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคน สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติในการลดรอยดำจากสิวและการอักเสบของผิวโดยเฉพาะ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผิว อย่างนีเวีย ลูมินัส630 โพสต์ แอคเน่ มาร์ค เซรั่ม ซึ่งเป็นเซรั่มสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อผู้มีปัญหารอยดำจากสิวโดยเฉพาะ

 

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ