สาเหตุรอยแดงจากสิวบนใบหน้า รักษาอย่างไรให้หายขาด

สาเหตุรอยแดงจากสิวบนใบหน้า รักษาอย่างไรให้หายขาด

รอยสิวบนใบหน้ามีหลายแบบทั้งรอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว รวมถึงรอยแผลเป็นจากสิว ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับใครก็สร้างความไม่มั่นใจได้เช่นกัน ดังนั้นการดูแลรักษารอยสิวจึงจำเป็นต้องรู้จักประเภทของรอยสิว เพื่อที่จะได้รักษารอยสิวได้อย่างถูกต้องและช่วยให้รอยสิวจางลงได้

สารบัญบทความ

  • ประเภทของรอยสิว
  • สาเหตุของรอยแดงจากสิว
  • 5 วิธีรักษารอยแดงจากสิว ให้หายจริง
  • วิธีดูแล และป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดงจากสิว

ประเภทของรอยสิว

  • รอยแดงจากสิว

    รอยแดงจากสิว (Post – Inflammatory Erythema) มีทั้งสีแดง ชมพู รวมถึงสีม่วงจากสิว ซึ่งเกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เมื่อผิวหนังเกิดอาการอักเสบร่างกายจะเริ่มการฟื้นฟูตัวเอง โดยลำเลียงเลือดไปยังบริเวณผิวหนังที่อักเสบ เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้บริเวณที่เป็นสิวอักเสบเกิดการขยายตัวของหลอดเลือดที่อยู่ภายใต้ผิวหนังกลายเป็นสิวอักเสบ ผิวหนังกลายเป็นสีแดง ชมพู ม่วง หรือเกิดรอยแดงขึ้น

  • รอยดำจากสิว

    รอยดำจากสิว (Post – Inflammatory Hyperpigmentation) มักเกิดขึ้นจากการอักเสบหรือการระคายเคืองของผิวหนัง ซึ่งการอักเสบจะไปกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ที่ทำหน้าที่ผลิตเมลานิน ทำให้ผลิตเมลานินมากกว่าปกติ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดรอยดำที่บริเวณผิวหนัง ซึ่งรอยดำจากสิวสามารถเป็นได้ทั้งรอยสีดำ สีน้ำตาล หรือสีเทา การเกิดรอยดำเป็นการอักเสบบริเวณผิวหนังชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งการรักษาใช้เวลานานและยากกว่าการรักษารอยแดง

  • รอยหลุมสิว

    รอยหลุมสิว (Atrophic Scars) คือ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการรักษาแผลบริเวณที่เป็นสิว โดยการที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อขึ้นมาเพื่อสมานแผล แต่มักไม่เรียบเนียนเหมือนผิวหนังในตอนแรก เพราะเกิดการบาดเจ็บในชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไปทำให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อที่สร้างไม่เพียงพอ

สาเหตุของรอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิวเกิดจากการอักเสบของผิว ซึ่งทำให้เกิดสิวอุดตันและเมื่อผิวบริเวณนั้นเกิดการอักเสบขึ้น ร่างกายจะเริ่มกระบวนการฟื้นฟูตัวเองด้วยการเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังผิวหนังที่อักเสบ เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวดูแดงหรือเกิดรอยแดงขึ้น การอักเสบจึงเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนของกระบวนการการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวที่เสียหาย

5 วิธีรักษารอยแดงจากสิว ให้หายจริง

การรักษารอยแดงจากสิวสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. การทาครีมลดรอยสิว

ควรใช้ผลิตภัณฑ์รักษารอยสิวที่เหมาะกับสภาพผิว เพราะสามารถช่วยเร่งการฟื้นตัวของผิวและลดความเสี่ยงของปัญหาสิวได้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารออกฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ เช่น วิตามินซี ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เร่งการสมานแผล, ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) หรือวิตามินบี 3 ที่ช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น รวมถึงสามารถลดการเห่อของสิวหนอง (Cystic Acne) และ ซาลิไซลิค แอซิด (Salicylic Acid) ที่ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการอุดตัน แถมยังลดรอยแดงได้อีกด้วย อย่างนีเวีย ลูมินัส630 โพสต์ แอคเน่ มาร์ค เซรั่ม (NIVEA LUMINOUS630 POST-ACNE MARKS SERUM) เซรั่มสูตรพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว และรอยสิวโดยเฉพาะ ด้วย 3 พลังทริปเปิ้ลแอคชัน ช่วยลดเลือนรอยดำสิวฝังลึก บำรุงผิวให้เรียบเนียน และควบคุมความมันบนใบหน้าต้นเหตุของการเกิดสิว เซรั่มเจลสีเขียว ด้วยสารสกัดจากชาเขียว เนื้อบางเบา คุมมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทุกวันเช้า-เย็น ช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ใน 2 สัปดาห์


สาเหตุรอยแดงจากสิวบนใบหน้า รักษาอย่างไรให้หายขาด

2. ว่านหางจระเข้ลดรอยสิว

คือการใช้ว่านหางจระเข้ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยสมานแผล รักษาความสมดุลของผิว ลดการอักเสบ ทั้งยังช่วยลดรอยแผลเป็นและรอยแดงจากสิวได้เช่นกัน


สาเหตุรอยแดงจากสิวบนใบหน้า รักษาอย่างไรให้หายขาด

3. การเลเซอร์ลดรอยสิว

เป็นวิธีการดูแลรักษารอยแดงที่แพทย์จะใช้เครื่องมือยิงเลเซอร์เข้าสู่ชั้นผิวเพื่อลดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของรอยแดงจากสิว โดยจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยปกติแล้วแสงเลเซอร์จะรักษารอยสิวที่ผิวหนังชั้นบนและผิวหนังกลาง โดยจะไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดใหม่ และแข็งแรงมากขึ้น เพื่อมาทดแทนรอยแผลเดิม วิธีรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่รู้สึกเจ็บ แต่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

4. การฉีดเมโสหน้าใส

เป็นการฉีดตัวยาที่มีวิตามินที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์เข้าไปสู่ผิวชั้นกลาง (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังแท้ ประกอบด้วยคอลลาเจน อิลาสติน และเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่นกับผิวกระจ่างใส ผิวชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว และช่วยให้รอยแดงจากสิวลดเลือนได้เร็วขึ้น

5. การทำ Hifu ลดรอยสิว

เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว จะไม่ใช่การลดรอยดํารอยแดงจากสิวโดยตรง แต่จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง มีน้ำมีนวลและชุ่มชื้นมากขึ้น การทำ Hifu เป็นการบำรุงผิวจากภายใน ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นโดยตรง นอกจากช่วยเรื่องคุณภาพผิวยังช่วยเรื่องการกระชับผิว


สาเหตุรอยแดงจากสิวบนใบหน้า รักษาอย่างไรให้หายขาด

วิธีดูแล และป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดงจากสิว

วิธีที่ 1. ห้ามบีบ แกะหรือเกาสิว

พฤติกรรมเหล่านี้ เป็นการกระตุ้นให้เนื้อเยื่อของผิวหนังและรูขุมขนอักเสบมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น ยิ่งส่งผลให้รอยแดงจากสิวหายช้ามากขึ้น

วิธีที่ 2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงให้เหมาะสมกับสภาพผิว

การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมเป็นการช่วยเร่งการฟื้นตัวของผิวภายในและลดความเสี่ยงในการเกิดสิว โดยเน้นสกินแคร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ช่วยต้านการอักเสบ และช่วยกระตุ้นฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

วิธีที่ 3. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น สุขภาพดี สามารถลดการเกิดสิวได้ ทั้งยังช่วยขับสารพิษและทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย หากร่างกายขาดน้ำจะทำให้ผิวแห้ง และร่างกายจะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้

วิธีที่ 4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว

โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินซี วิตามินบี ซึ่งจะมีอยู่ในอาหารประเภทผักผลไม้ รวมถึงเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง

วิธีที่ 5. การปกป้องผิวจากแสงแดด

ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไป เพราะแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดรอยแดงเพิ่มมากขึ้น และในบริเวณที่เป็นรอยสิวที่เพิ่งเกิดขึ้นแสงแดด อาจทำให้บริเวณรอยสิวเกิดเป็นรอยดำได้ง่ายยิ่งขึ้น

การดูแลรักษารอยแดงจากสิวจะใช้เวลาค่อนข้างนานจึงจำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ และต้องไม่ลืมดูแลผิวอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ในการรักษาสิวและรอยแดงจากสิวใช้ระยะเวลาน้อยลง

 

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ