- เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินโนน อาจทำให้เกิดรอยดำคล้ายฝ้าได้
นอกจากนี้ยังมีประเภทของฝ้า ที่เราเองต้องสังเกตให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นหรือป้องกันฝ้าที่เป็นอยู่ไม่ให้เข้มจนรักษายาไปกว่าเดิม
ประเภทของฝ้า ฝ้าแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
สำหรับ ฝ้า นั้นสามารถแบ่งออกเป็นได้เป็น 5 ลักษณะดังนี้
1. ฝ้าแดด
เกิดจากแสงแดดที่มีรังสี UVA และ UVB ที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้ทำลายเข้าสู่ผิวได้ลึก กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีภายในผิวหนัง ผิวจึงคล้ำเสีย แลดูหมองคล้ำ จนเกิดเป็นฝ้าแดดได้
2. ฝ้าเลือด
มีลักษณะเป็นปื้นสีแดง ซึ่งอาจเกี่ยวกับระบบฮอร์โมนที่ผิดปกติ รวมไปถึงการใช้ยาบางประเภทที่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยทำงานผิดปกตินั่นเอง ยิ่งโดนความร้อนหรือแสงแดดจะยิ่งมีสีที่แดงและชัดกว่าเดิม
3. ฝ้าตื้น
สำหรับลักษณะของฝ้าตื้นนั้น จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีขอบชัด เกิดง่ายแต่ก็รักษาให้จางลงได้ง่ายเชเดียวกัน เนื่องจากยังอยู่ในระดับชั้นผิวหนังกำพร้า และถึงแม้จะหายง่ายกว่าฝ้าชนิดอื่น แต่ระยะเวลาที่จะให้จางลงตามธรรมชาติก็ยากไม่น้อย ควรเพิ่มด้วยการรักษาร่วมกับใช้ครีมหรือยาทาเสมอ
4. ฝ้าลึก
จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล เทาหรือม่วง เห็นขอบไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากชั้นผิวหนังที่ลึกลงไปมีความจางมากกว่า จึงรักษาค่อนข้างยาก เกิดในชั้นผิวหนังแท้นั่นเอง
5. ฝ้าแบบผสม
หมายถึงการเป็นฝ้าผสมหลายแบบ ซึ่งเป็นการผสมของฝ้าทั้งสองแบบ ลักษณะจะเป็นสีเข้ม แต่ขอบจาง ต้องรักษาด้วยวิธีหลายแบบรวมกันทั้งฝ้าลึก และฝ้าตื้น
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ต่างกันอย่างไร
นอกจากฝ้า ยังมีจุดด่างดำที่เกิดบนผิวมีอีกแบบ เรียกว่า “กระ” ซึ่งมีความคล้ายคลึงกัน แต่ลักษณะของจุดด่างดำ ฝ้า และกระมีความแตกต่างกันในหลายจุด นั่นก็คือ