จะผิวแบบไหนก็เอาอยู่! โฟมล้างหน้าใสตัวช่วยหน้ากระจ่างใสขั้นสุด

      ปัญหาผิวที่กวนใจสาวๆ อยู่ตลอดก็คือเรื่องหน้าหมอง ไม่กระจ่างใส ดูไม่มีออร่า แม้จะใช้โฟมล้างหน้าใสแล้ว แต่พอผ่านไปสักพัก ผิวก็กลับมาดูไม่สดใสอีกแล้ว นั่นก็เป็นเพราะสาวๆ อาจยังดูแลผิวหน้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้สารบำรุงต่างๆ ยังซึมเข้าสู่ผิวได้ไม่ดีพอ แถมยังไม่ยอมหลีกเลี่ยงตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำอีก เรามาดูกันดีกว่าว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวดูดร็อปและไม่สดใสนั้นเกิดจากอะไร จะได้แก้ปัญหาได้ที่ต้นตอ

1. แสงแดด

      สาเหตุแรกเลยก็คือแสงแดดนั่นเอง เพราะในแสงแดดมีรังสี UVA และ UVB ตัวการร้ายที่จ้องทำลายผิวสวยๆ ของเราอยู่ ดังนั้น นอกจากโฟมล้างหน้าใสที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสแล้ว ก็ต้องป้องกันด้วยครีมกันแดดเพิ่มอีกชั้นหนึ่งด้วยนะ

2. ปัญหาผิว เช่น สิวอุดตัน

      หากสาวๆ มีผิวหน้าไม่ไบรท์ ไม่เคลียร์ แถมเต็มไปด้วยปัญหาผิวอย่างรอยดำ รอยแดง หรือสิวอุดตัน ใบหน้าของสาวๆ ก็จะดูไม่สดใส แถมยังดูผิวบอบบาง ง่ายต่อการคล้ำเสียสะสมอีกด้วย

3. อนุมูลอิสระ

      อนุมูลอิสระในร่างกายของเรานั้นจะถูกกระตุ้นให้เกิดการออกซิเดชั่นได้จากพลังงานรุนแรง อย่างเช่น รังสียูวีในแสงแดด จนทำให้มีอนุมูลอิสระตัวใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์ในผิวหนังและร่างกายเราเสื่อมสลายลง ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำหรือผิวดูแก่กว่าวัย จึงต้องใช้โฟมล้างหน้าใสและสกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมาช่วยกู้ผิวนั่นเอง

หนทางสู่ผิวสว่างกระจ่างใสเริ่มได้ตั้งแต่การล้างหน้า! เพียงสาวๆ ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธีและเลือกใช้โฟมล้างหน้าใสที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เท่านี้ก็สามารถมีผิวดีและแข็งแรงได้ไม่ยากอย่างที่คิด

เทคนิคการล้างหน้าที่ถูกต้องด้วยโฟมล้างหน้าใส ไม่ทำร้ายผิวนั้น มีด้วยกัน 6 ขั้นตอนง่ายๆ

1. ล้างมือให้สะอาด
ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ อย่าลืมทำความสะอาดมือก่อนล้างหน้า โดยขั้นตอนแรกต้องทำความสะอาดเครื่องสำอางและฝุ่นควันออกให้หมดจดก่อน โดยใช้สำลีชุบคลีนซิ่งสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวเช็ดทำความสะอาด แต่ย้ำว่าต้องเช็ดอย่างเบามือนะ เพื่อไม่ให้ผิวหน้าอันบอบบางถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัว

2. เลือกโฟมล้างหน้าใสสูตรเพื่อผิวขาวอมชมพู
หนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำความสะอาด คือต้องเลือกโฟมล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ โดยสาวผิวมันควรเลือกโฟมล้างหน้าใสที่ทำความสะอาดน้ำมันบนผิวได้อย่างล้ำลึกและช่วยควบคุมความมัน ส่วนสาวผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่ายหรือมีผิวแห้งนั้น ควรเลือกโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนและมีความชุ่มชื้นสูงเพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองนั่นเอง

3. ล้างหน้าให้ถูกวิธี
แค่วิธีการล้างหน้าก็สามารถเปลี่ยนผิวเสียให้เป็นผิวสวยได้! หากอยากผิวสวยไม่เป็นสิวง่าย ควรล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าใสที่ช่วยลดสิวและปรับผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส พร้อมคุณสมบัติทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวได้อย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ควรล้างหน้าอย่างถูกวิธีโดยไม่ถูเนื้อโฟมแรงเกินไปหรือย้อนแนวขน เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันหรือระคายเคืองได้

4. ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
หลังจากนวดโฟมล้างหน้าใสจนทั่วใบหน้าแล้ว แนะนำให้ใช้น้ำเย็นในการล้างหน้า เพราะน้ำเย็นนั้นจะช่วยปิดและกระชับรูขุมขนของสาวๆ ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดหน้า

5. สครับผิวบ้างเป็นครั้งคราว
เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือเสื่อมสภาพ ควรสครับผิวหน้าด้วยสครับอย่างอ่อนโยนสัปดาห์ละครั้ง

6. รีบทาครีมบำรุง
หลังจากทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งและล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าใสที่เหมาะกับสภาพผิวแล้ว จากนั้นควรเช็ดหน้าให้แห้ง และรีบทาครีมบำรุงทันที ไม่ควรรอให้ผิวโดนอากาศจนสูญเสียความชุ่มชื้นไปหมดนะ

สรุป

การล้างหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส ลดปัญหาสิวอุดตัน และป้องกันผิวหน้าจากการระคายเคือง NIVEA ขอแนะนำผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าใส ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง ผิวมีสิวอุดตัน หรือแม้กระทั่งปัญหาใหญ่อย่างผิวหน้าหมองคล้ำนั้น จะจัดการยังไง การล้างหน้าอย่างถูกวิธีด้วยโฟมที่เหมาะกับผิว ตั้งแต่การคลีนซิ่งไปจนถึงการเลือกใช้โฟมล้างหน้าใส จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาด สดใส และแข็งแรงได้ในระยะยาว ลองเปลี่ยนมาใช้โฟมล้างหน้าใสของ NIVEA และสัมผัสกับผิวหน้าที่กระจ่างใสกันเลย

• มีปัญหาผิวหน้าเป็นสิว…แต่อยากแต่งหน้า!
• การเลือกโฟมล้างหน้า ลดสิวอุดตัน
• คนเป็นสิวใช้ครีมกันแดดแบบไหนเวิร์กสุด
• ลดสิวหน้าใสได้แค่เลือกโฟมและคลีนซิ่งที่ใช่